สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว
จับมือสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า
หวังต่อยอดให้รถยนต์พลังงานทางเลือก
สร้างเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เผยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตัวเลขยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม - มิถุนายน) โดยมีตัวเลขยอดขายรวมที่ 302,694 คัน คิดเป็นการลดลง 1.7% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขครึ่งปีแรกของปี 2567 อย่างไรก็ดีในภาพรวมตัวเลขยอดขายในปี 2568 มีโอกาสที่จะเติบโตสูงขึ้นกว่ายอดขายรวมในปี 2567 โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขยอดขายน่าจะไปแตะที่ระดับถึง 570,000 - 600,000 คันในปีนี้
ที่น่าสนใจคือในตัวเลขยอดขายรวม 302,604 คันในครึ่งปีแรกนั้น ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก (XEV) มีอัตราการเติบโตสูงถึง 21.8% หรือยอดขายรวม 132,493 คัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 43.8% ของตลาดรวม โดยรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) มียอดขาย 56,529 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อน 54.8% ซึ่งจะเห็นได้ว่ารถยนต์พลังงานทางเลือก (XEV) มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะกินส่วนแบ่งของตลาดถึง 50% ในระยะเวลาอันใกล้นี้ จากนโยบายการสนับสนุนกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกของภาครัฐ
กลุ่มรถยนต์ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คงหนีไม่พ้นตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ลดลงอย่างน่าเป็นห่วงโดยในปีแรกนี้รถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดจำหน่ายเพียง 94,715 คัน หรือลดลงจากปีก่อนถึง 12.7% ดัชนีต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมส่งผลถึงปริมาณ Supply ของรถยนต์ใช้แล้วที่จะหมุนเวียนเข้ามาจากตลาดในปีถัด ๆไป และเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถในกลุ่มพลังงานทางเลือกจะมีบทบาทในตลาดรถยนต์ใช้แล้วมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่รถในกลุ่ม ICE และ Pickup truck คงจะลดทอนบทบาทในตลาดลงไปตามลำดับ
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ได้เล็งเห็นถึงทิศทางของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้ทำความร่วมมือกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ในการสร้างความร่วมมือในฐานะพันธมิตรในการพัฒนา และต่อยอดความเชื่อมั่นของรถยนต์พลังงานทางเลือก ให้กับพันธมิตรคู่ค้าของเราในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว เพื่อต่อยอดทางธุรกิจให้รถยนต์พลังงานทางเลือกสามารถสร้างการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมของเราได้อย่างยั่งยืนยืน
โครงการรถยนต์ไฟฟ้า 3.0 (EV 3.0) จะสิ้นสุดลงภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ จากนี้จนถึงสิ้นปีเราคงได้เห็นสงครามราคาของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในตลาดภายในประเทศ ผลกระทบจากสงครามราคาอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เพียงอุตสาหกรรมรถยนต์ใหม่เท่านั้น แต่จะลามมาถึงอุตสาหกรรมข้างเคียงเช่นอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วของเราเช่นกัน การทำงานร่วมกันกับสมาคมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์จึงมีความสำคัญมากสำหรับสมาคมฯ ของเราต่อจากนี้ไป