เรเว่ ยกทัพ NEV บุคคลและพาณิชย์จากบีวายดี

และรถหรูจากเดนซ่า พร้อมเปิดตัว BYD SEALION 7

และ BYD SHARK 6 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

 

กลุ่มธุรกิจเรเว่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ จัดทัพรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและยานยนต์เชิงพาณิชย์สุดล้ำจากบีวายดี และยนตรกรรมระดับลักชัวรีจากเดนซ่า ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 เดินหน้าเขย่าวงการส่งท้ายปีกับไฮไลต์สุดพิเศษมากมาย โดยในครั้งนี้ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อมราคาขายปลีกแนะนำดังนี้

BYD SEALION 7 รถยนต์ C-SUV Sport พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,249,900 บาท และรุ่น AWD Performance ราคาขายปลีกแนะนำ 1,399,900 บาท และพิเศษสุดกับ Early Bird 2024 Motor Expo Campaign! สามารถเป็นเจ้าของ BYD SEALION 7 รุ่น Premium ได้ในราคา 1,149,900 บาท และรุ่น AWD Performance ในราคา 1,249,900 บาท

BYD ATTO 3 ผลิตในประเทศ รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 759,900 บาท และรุ่น Extended ราคาขายปลีกแนะนำ 899,900 บาท

BYD DOLPHIN รุ่น Standard Range ราคาขายปลีกแนะนำ 569,900 และรุ่น Extended Range ราคาขายปลีกแนะนำ 709,900 บาท

BYD SEAL รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 999,900 บาท, รุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,099,900 บาท และรุ่น AWD Performance ราคาขายปลีกแนะนำ 1,199, 900 บาท

BYD SEALION 6 DM-i รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 969,900 บาท และรุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,069,900 บาท

BYD M6 7 ที่นั่ง รุ่น Dynamic ราคาขายปลีกแนะนำ 799,900 บาท และรุ่น Extended ราคาขายปลีกแนะนำ 899,900 บาท

 

พร้อมทั้งเผยโฉม BYD SHARK 6 กระบะขุมพลัง Plug-in Hybrid อย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ร่วมด้วยการจัดแสดงยานยนต์สมรรถนะเหนือชั้นรวมทั้งสิ้น 27 คัน ใน 3 บูธ ให้ชาวไทยได้สัมผัสความล้ำสมัยของนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน พร้อมทั้งจัดเต็มข้อเสนอและของสมนาคุณสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 เท่านั้น!

สำหรับบูธ “บีวายดี” จัดแสดงรถยนต์พลังงานใหม่ 7 รุ่น ประกอบด้วย BYD ATTO 3, BYD DOLPHIN, BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 6, BYD SEALION 7 และ BYD SHARK 6 ขณะที่บูธ “เดนซ่า” นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับลักชัวรี 3 รุ่น คือ DENZA D9, DENZA N7 และ DENZA Z9 GT ส่วนบูธ “เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์” นำยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ภายใต้แบรนด์บีวายดีมาอวดโฉม 4 รุ่น ได้แก่ BYD Q3B, BYD eMIXER, BYD T3 และ BYD eBUS

นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต บีวายดีมีความยินดีที่ได้ผนึกพลังอีกครั้งกับพันธมิตรระยะยาวอย่างเรเว่ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมากับการรังสรรค์พื้นที่จัดแสดงถึง 3 บูธ เพื่อนำเสนอยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่จากทั้ง บีวายดี เดนซ่า และคอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ยลโฉมและพิจารณาเลือกซื้ออย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งฉายภาพระบบนิเวศยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ของเราที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและยานพาหนะเชิงพาณิชย์ให้เป็นที่ประจักษ์อีกด้วย”

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ปี 2567 เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญสำหรับกลุ่มธุรกิจเรเว่ที่ได้สานต่อวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ ‘NEW ENERGY FOR ALL’ ที่มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ NEV Nation ผ่านการนำเสนอยานยนต์พลังงานใหม่หลากหลายรุ่นให้แก่ผู้บริโภค โดยมีบีวายดีเป็นแบรนด์เรือธงที่ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องสวนทางตลาด การันตีด้วยอัตราการเติบโต 7% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แบรนด์เดนซ่าซึ่งเข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนก็ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการกวาดยอดจองโมเดลแรกคือ DENZA D9 ถึง 823 คันหลังเปิดตัวเพียง 3 วัน สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคและตอกย้ำความเป็นผู้นำของเรเว่ในตลาดประเทศไทย เราเชื่อว่าการเปิดตัวและประกาศราคา BYD SEALION 7 รวมถึงการเผยโฉม BYD SHARK 6 ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 นี้ จะสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมและมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพในทั้ง 3 บูธของเราจะมอบความประทับใจให้กับผู้มาเยี่ยมชมทุกท่าน โดยนอกเหนือจากการนำเสนอยานยนต์คุณภาพภายใต้แบรนด์บีวายดีและเดนซ่า ให้กับผู้บริโภคชาวไทยตามแผนการขยายธุรกิจอย่างรอบด้านที่ได้เคยประกาศไว้ เรเว่จะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์บริการทั้งด้านการขายและหลังการขายให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเติมเต็มความพร้อมให้กับระบบนิเวศและช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยรู้สึกมั่นใจที่จะพิจารณาเลือกใช้ยานยนต์พลังงานใหม่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่อนาคตที่สะอาดและยั่งยืนสำหรับทุกคน”

 

สัมผัสยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่อโลกยั่งยืนที่บูธ “บีวายดี”

บูธ “บีวายดี” ภายใต้แนวคิด “Futuristic Green Mobility” โลกแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดเต็มไฮไลต์สุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 กับการเปิดตัว BYD SEALION 7 และการเผยโฉม BYD SHARK 6 อย่างเป็นทางการ

BYD SEALION 7 ที่สุดของประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตรักษ์โลก

BYD SEALION 7 สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์กลุ่ม C-SUV ด้วยการผสานดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ Fastback และฐานล้อต่ำให้ภาพลักษณ์โฉบเฉี่ยว มอบประสบการณ์เหนือชั้นด้วยระบบส่งกำลังอัจฉริยะ 8 in 1 พร้อมเทคโนโลยีการประกอบแบตเตอรี่แบบ Cell-to-Body และระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ BYD Intelligent Cockpit

 

ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร

รูปโฉมภายนอกของ BYD SEALION 7 ได้รับแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของสายน้ำและมวลอากาศ โดยด้านหน้ารถโดดเด่นด้วยดีไซน์ "Ocean X" กับรูปทรงตัว "X" ที่สะท้อนถึงความล้ำสมัยและทรงพลัง ไฟหน้าดีไซน์ "Double U" อันเป็นเอกลักษณ์ เสา A-pillar ที่ลาดเอียงเชื่อมต่อกับหลังคาแบบ Fastback อย่างไร้รอยต่อ พร้อมสปอยเลอร์หลังที่ผสานเข้ากับตัวรถอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสปอร์ตแบบรถ SUV Coupe ฝากระโปรงท้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเสริมความดุดัน ไฟท้ายทรงหยดน้ำแบบไดนามิกวางตัวในแนวนอนช่วยเพิ่มมิติความกว้างให้กับตัวรถ พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม และการตกแต่งด้วยโครเมียม เสริมความหรูหราด้วยรายละเอียดไฟ Dot-Matrix ภายในไฟหน้าและไฟท้ายให้ความสะดุดตาเมื่อส่องสว่างบนท้องถนน

 

หรูหรา สะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว

ภายในห้องโดยสารของ BYD SEALION 7 ตกแต่งด้วยวัสดุสัมผัสนุ่มระดับพรีเมียมกว่า 80% ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตู เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้ Nappa ระบบกันเสียงรบกวนที่เหนือชั้นด้วยกระจกอะคูสติกสองชั้น พร้อมฟิล์ม PVB Resin ในกระจกบังลมหน้า พรมปูพื้นอะคูสติกแบบไร้รอยต่อ วัสดุฉนวนกันเสียงรอบคัน ซุ้มล้อบุวัสดุกันเสียง และฉนวนกันเสียงรอบมอเตอร์ ทั้งยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางและที่พักขาปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่ง และ Welcome Seat เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระดับ CN95 พร้อมระบบ IONIZER หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD 3 มิติ ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ระบบเครื่องเสียง DYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง หลังคา Panoramic Glass Roof ช่วยลดความร้อนและกรองแสง UV กระจกบังลมหน้าและกระจกหน้าต่างด้านหน้าแบบเก็บเสียง กระจกส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสาร 128 สี ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร

ทรงพลัง แต่ยังคงความนุ่มนวล

BYD SEALION 7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมดุลทั้งความแม่นยำและความนุ่มนวลขณะขับขี่ มาพร้อมขุมพลัง Blade Battery ความจุ 82.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน-เมตร และระยะทางวิ่งสูงสุด 542กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi-link ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD (Frequency Selective Damping) ที่ปรับระดับความหนืดของโช้คอัพอัตโนมัติตามสภาพถนน

 

 

BYD SHARK 6 รถปิคอัพสมรรถนสูง พร้อมอวดโฉมแล้ววันนี้

BYD SHARK 6 ยกระดับรถกระบะแบบ Double Cab 5 ที่นั่งให้พร้อมรับมือทุกความท้าทาย ด้วยการผสานความสะดวกสบายเข้ากับความอเนกประสงค์ที่เหนือชั้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การบรรทุกสัมภาระ การลากจูง และการผจญภัยแบบออฟโรด

โครงสร้างตัวถังของ BYD SHARK 6 ผลิตจากเหล็กความแข็งแก่รงสูงมากถึง 78% มอบความแข็งแกร่งและความทนทานที่เหนือกว่าพร้อมลดน้ำหนักตัวรถ ส่งผลให้มีเสถียรภาพการทรงตัวและการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 265/65 R18 ระบบช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลัง แบบปีกนกคู่ท และดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความอากาศ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมั่นคง

 

ห้องโดยสารของ BYD SHARK 6 มาพร้อม หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว และระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลัง 4 ทิศทาง กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบกันเสียงและกระจกส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย จัดเต็มกับระบบเสียง DYNAUDIO ซึ่งเป็นระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม ลำโพง 12 ตำแหน่ง ให้ประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบ

BYD SHARK 6 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DM-O ที่ล้ำสมัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดอันทรงพลัง เครื่องยนต์ 1.5L ทำงานร่วมกับระบบ EHS และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 in 1 ที่ติดตั้งด้านหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 321 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 5.7 วินาที และใช้ BYD Blade Battery ความปลอดภัยสูง ความจุแบตเตอรี 29.58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบกระจายแรงบิดแบบเรียลไทม์ มั่นใจได้ถึงการส่งกำลังที่เหมาะสมและการควบคุมที่แม่นยำในทุกสภาพถนน สามารถลากจูงได้สูงสุด 2,500 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 790 กิโลกรัม ทั้งยังตอบโจทย์สายออฟโรดด้วยศักยภาพการปีนไต่ทางลาดชันได้สูงสุด 60% มุมปะทะ 31 องศา และลุยน้ำได้ลึกสูงสุด 700 มิลลิเมตร

 

 

ยลโฉมยนตรกรรมแห่งความหรูหราเหนือระดับที่บูธ “เดนซ่า”

บูธ “เดนซ่า” เสนอแนวคิด "Luxury Oasis" ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ระดับไฮเอนด์และสุนทรียะแห่งความสง่างาม โดยจัดแสดงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับลักชัวรี่ที่ถึง 3 รุ่น ได้แก่

DENZA N7 รถครอสโอเวอร์ (Crossover) พลังงานไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบ Fastback Coupe พัฒนาบน e-Platform 3.0 พร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ทั้งระบบแบตเตอรี่แบบ CTB (cell-to-body) และระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ iTAC (Intelligence Torque Adaptation Control System) มาพร้อมดีไซน์หรูหรา กระจังหน้าแบบปิด ไฟหน้าดีไซน์แยกส่วน พร้อมไฟ DRL รูปแบบ Diamond Arrow และเซ็นเซอร์ LiDAR บริเวณกันชนหน้า ด้านข้างโดดเด่นด้วยมือจับประตูแบบซ่อนและเส้นโครเมียมรอบกรอบกระจก ยิ่งไปกว่านั้น N7 ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-gun ที่สามารถชาร์จพร้อมกันสองพอร์ตด้วยเครื่องชาร์จเดียวด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 230 kW เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยแบตเตอรี่มีความจุ 91.392 กิโลวัตต์ ให้ระยะทางการวิ่งที่ไกลสูงสุดถึง 702 ตามมาตรฐาน CLTC

DENZA Z9 GT รถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียมและเป็นเรือธงรุ่นล่าสุดจากแบรนด์เดนซ่า โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว ดุดัน เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ มีให้เลือกทั้งแบบรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% บนแพลตฟอร์ม Intelligent e3 platform มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ที่ขับเคลื่อนล้อหลังอิสระซ้ายและขวาที่สามารถปรับทิศทางของล้อหลังที่ช่วยให้การบังคับรถได้อิสระมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ  พร้อม Blade Battery 800V แบบปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระยะทางวิ่งรวมสูงสุด 1,100 กม. ตามมาตรฐาน CLTC เสริมด้วยระบบช่วงล่างแพลตฟอร์ม DiSus-A ช่วงล่างถุงลมไฟฟ้าอัจฉริยระที่สามารถปรับระดับความนุ่มนวลและความสปอร์ตของช่วงล่างได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบความสบายภายในห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิ เช่น ระบบปรับเบาะให้รองรับสรีระเมื่อเข้าโค้ง ระบบตู้เย็นที่สามารถทำความเย็นจนถึง 0 องศา ภายใน 4.5 นาที AR-HUD หน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียเฉพาะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ฯลฯ

DENZA D9 รถตู้อเนกประสงค์ (MPV) ที่มาพร้อมดีไซน์ซึ่งสะท้อนความโมเดิร์นและความหรูหรา เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์และความมั่นใจให้กับทุกการเดินทาง มาพร้อมกับสมรรถนะอันเป็นเลิศจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยเรเว่ ออโตโมทีฟ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ได้เปิดตัว DENZA D9 อย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศราคาจำหน่ายแนะนำสำหรับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น

 

ชมนวัตกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และร่วมกิจกรรมพิเศษที่บูธ “เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์”

ครั้งแรกของเรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ที่มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ โดยนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ 4 รุ่น ประกอบด้วย

BYD Q3B รถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมเทอร์มินอลไฟฟ้าแทรคเตอร์สูงสุด 75,000 กก. GCW MAXให้ระยะทางสูงสุด 200 กม. ต่อหนึ่งรอบการชาร์จ แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร และช่วงล่างกันสะเทือน

 

BYD eMIXER รถผสมคอนกรีตไฟฟ้าที่มาพร้อมกับห้องโดยสารซึ่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าและไฮดรอลิก กระจกไฟฟ้าและเบาะคนขับสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฮดรอลิก โช้คอัพ แผงหลังคาสามารถปรับได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ ระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลง ครบที่สุด สำหรับ BYD eMixer

 

BYD T3 รถตู้ไฟฟ้าสำหรับงานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ ตอบโจทย์การขนส่งในเมืองด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด คล่องตัว รองรับน้ำหนักของสินค้าได้กว่า 799 กิโลกรัมบนพื้นที่ความจุ 3,800 ลิตร เสริมด้วยแผ่นรองพื้นอลูมิเนียมอัลลอย ที่มีลักษณะพื้นผิวกันลื่น เพื่อความทนทานและความปลอดภัย ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราศจากมลพิษและเสียงรบกวน มาพร้อม Blade Battery ความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 280 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC

 

BYD eBUS รถบัสไฟฟ้า 100% สำหรับการขนส่งสาธารณะ ภายในกว้างขวางรองรับผู้โดยสารได้ถึง 42 คน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 80 กม./ชม. และสามารถขึ้นทางลาดชันได้ถึง 25% มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟตขนาด 348 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 250 กม. ที่ความเร็วคงที่ 40 กม./ชม. และรองรับการชาร์จเร็วแบบ DC 100 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 3-3.5 ชั่วโมง

กลุ่มธุรกิจเรเว่ ขอเชิญชวนผู้บริโภคร่วมชมและสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 โดยผู้ที่จองรถบีวายดี เดนซ่า และยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ทุกรุ่น พบกับบีวายดีและเดนซ่าได้ที่บูธ A06 และเรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ที่บูธ R03 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)