เปอโยต์ ประเทศไทย คาดยอดขายปี 2022 แตะพันคัน

เผยเปิดกลยุทธ์รุกตลาดยานยนต์ไทย

 

เปอโยต์ ประเทศไทย แถลงผลประกอบการปี 2021 ปิดยอดที่ 435 คัน คาดปี 2022 ต้องมียอดทะลุ 2 เท่าของปีนี้ หรือประมาณ 1 พันคัน พร้อมเผยกลยุทธ์การทำตลาด ด้วยการขยายเครือข่ายมากขึ้น ตามเป้าคือ 25 แห่งใน 3 ปี มุ้งเน้นการพัฒนาทักษะและบริการหลังการขาย และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอะไหล่

 

 

นายสุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เปอโยต์ เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 210 ปี และทำตลาดในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี โดยช่วงปี 2019 ได้กลับมาทำตลาดในประเทศไทย และได้การตอบรับจากผู้ใช้รถในประเทศไทย ปัจจุบันมีจำนวนรถยนต์ เปอโยต์ ในประเทศไทยรวมสูงกว่า 1,000 คัน ในปีนี้เรายังคงมุ่งมั่นในการสรรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีรุ่น  2008 เอสยูวี, 3008 เอสยูวี และ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ปีนี้มีแผนจะนำรุ่นใหม่เข้ามาเสริมด้วยเช่นกัน”

 

 

นอกจากนี้ เปอโยต์ ประเทศไทยมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการหลังการขาย และเดินหน้าขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุด ให้กับลูกค้าทุกรายควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจร ให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ปัจจุบัน มี 5 สาขาในกรุงเทพฯ คือ เยาวราช, สุขุมวิท, เกษตร-นวมินทร์, สยามพารากอน และวงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์ รวมถึง 3 สาขาต่างจังหวัด คือ หาดใหญ่, ภูเก็ต และอุบลราชธานี ภายใต้บริษัท ไลอ้อน ออโตโมบิล จำกัด รวมไปถึงสาขา มีนบุรี ภายใต้ บริษัท บริษัท อีสเกท จำกัด และสาขา อุดรธานี ภายใต้บริษัท เคซีซี ออโต้ เซลส์ จำกัด โดยในปี 2022 มีแผนขยายสู่จังหวัดพิษณุโลก, โคราช, ชลบุรี และเชียงใหม่ พร้อมตั้งเป้าขยายเครือข่ายให้ครบ 25 สาขา ในปี 2024

 

 

“ทั้งนี้เปอโยต์ยังมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและการบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยเราเป็นแบรนด์ยุโรปลำดับต้น ๆ ที่ได้รับการเลือกสรรจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มเจน X และ Baby Bloomer ซึ่งเราต้องขยายเข้าสู่กลุ่ม เจน Y และ New Gen ดังนั้นเราต้องสร้าง ความโดดเด่น คุณภาพบริการหลังการขาย การมีอะไหล่รองรับครบครัน และการเพิ่มเครือข่ายอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมคืนกำไรให้สังคม ผ่านการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR-Corporate Social Responsibility) อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมองถึงโอกาสในการนำรถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาทำตลาดประเทศไทยในอนาคต” นายสุนทรพันธ์กล่าว

 

ปัจจัยสุดท้ายซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 3 หัวข้อแรก คือการบริหารจัดการอะไหล่ ให้รองรับรับรถยนต์ทุกรุ่นอย่างครอบคลุม ทั่วประเทศ พร้อมคืนกำไรให้สังคม ผ่านการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR-Corporate Social Responsibility) อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมองถึงโอกาสในการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดประเทศไทยในอนาคต

 อนึ่งเปอโยต์ เป็นรถยนต์ที่อยู่ในเครือ กรุ๊ป พีเอสเอ (Groupe PSA) ของฝรั่งเศส โดยช่วงปี 2021ได้มีการควบรวมกับ เอฟซีเอ หรือ เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิล (FCA-Fiat Chrysler Automobile) และเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สเตลแลนทิส’ (STELLANTIS) ส่งผลให้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก กับแบรนด์รถยนต์ในเครือมากถึง 14 แบรนด์ โดยในปีที่ผ่านมา เปอโยต์ มียอดขายรวมทั่วโลกสูงกว่า 1.2 ล้านคัน

 

 

ช่วงปี 2021 เปอโยต์ เผยโฉม โลโก้แบบใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 210 ปี สอดคล้องกับยนตรกรรมรุ่นใหม่, การก้าวสู่ยุคของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รวมถึงเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เหนือชั้น พร้อมด้วยโลโก้ใหม่เป็นลำดับที่ 11 นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทช่วงปี 1850 โดยใช้หัวสิงโตแบบ 2 มิติ ที่ผ่านการดีไซน์ใหม่ ล้อมรอบด้วยกรอบทรงคล้ายโล่ห์ ให้อารมณ์ในสไตล์เรโทร เช่นเดียวกับคอนเซ็ปต์คาร์ ‘e-Legend’ ที่เผยโฉมต่อสาธารณะชนในปี 2018

สำหรับประเทศไทย โลโก้แบบใหม่จะเริ่มนำมาใช้ในการสื่อสารเป็นอันดับแรก พร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ ‘Be Your First European Car’ หรือรถยุโรปคันแรกของคุณ จากนั้นจึงขยายสู่โชว์รูม เปอโยต์ ต่อไป โดยภายในปี 2023 โชว์รูม เปอโยต์ ทั้งหมดในประเทศไทย จะได้รับการเปลี่ยนโฉมอย่างสมบูรณ์