สรยท. เปิดกติกาใหม่
THAILAND CAR OF THE YEAR 2025
สรยท. เปิดกติกาคัดเลือกรถยอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ THAILAND CAR EV & MOTORCYCLE OF THE YEAR 2025 โดยกติกาใหม่เปิดทางกลุ่มรถยนต์ปรับโฉม (Model Year) เข้าร่วมชิงชัย ภายใต้กฎเหล็กใหม่ 8 ข้อ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดรถในปัจจุบัน และเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย
สำหรับการปรับกฎระเบียบการคัดเลือกรถยอดเยี่ยมประจำปีใหม่ในครั้งนี้ เพื่อสอดคล้องกับบริบทของตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยวัตถุประสงค์ของการปรับกฎระเบียบในครั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ออกมาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทุกด้าน อาทิ คุณภาพ, สมรรถนะ, ประโยชน์ใช้สอย และมีความคุ้มค่าออกสู่ตลาด เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคชาวไทย ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นเปลี่ยนโฉม (Model Change) หรือรุ่นปรับโฉม (Minor Change) ดังกล่าว
นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association (TAJA) เปิดเผยว่า “ในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ 1 รุ่น ผู้ผลิตที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ จะขยายเวลาในการทำตลาดมากขึ้นกว่าปกติ จากเดิมที่มีการเปลี่ยนโฉมทุก 4-5 ปี แต่ปัจจุบันหลายรุ่นถูกขยายการทำตลาดนานขึ้น ส่วนรถจักรยานยนต์จะมีอายุการทำตลาดนานกว่ารถยนต์ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนโฉมออกสู่ตลาด”
“เพื่อเป็นการสนับสนุนในเรื่องของการนำนวัตกรรมและสิ่งที่ดี ๆ ที่มีความคุ้มค่ามาสู่ผู้บริโภคชาวไทย โดยรุ่นปรับโฉมของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ในบางรุ่นทำได้ดีมากไม่แพ้กับรถยนต์แบบโมเดลเชนจ์ อาทิ รูปลักษณ์ เครื่องยนต์ และเทคโนโลยี ทางสมาคมฯ จึงเล็งเห็นความตั้งใจในด้านการยกระดับในหลาย ๆ ด้านของผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงได้มีการประชุมกรรมการและทีมทำงานในการปรับกติกาเพื่อคัดเลือกรถที่เข้าเกณฑ์ทั้งในกลุ่มของรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี รถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมประจำปี และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 โดยให้ครอบคลุมกับรถที่มีการปรับโฉมซึ่งเปิดตัวในช่วงกรอบเวลาที่กำหนด และถูกผลิตจากโรงงานในประเทศไทยหรือนำเข้าจากกลุ่มประเทศอาเซียน โดยในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการปรับโฉมนั้นจะมีเกณฑ์การพิจารณาแยกต่างหากผ่านทางการพิจารณาตามกรอบของอนุกรรมการที่ดูแล และการปรับเปลี่ยนนั้นจะต้องส่งผลดีต่อผู้บริโภคชาวไทย” นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการคัดเลือก คือ การส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้นำผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เพียบพร้อมด้วยความยอดเยี่ยมในหลาย ๆ ด้าน มีคุณภาพ สมรรถนะ และมีความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคชาวไทย ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในรุ่นเปลี่ยนโฉมและปรับโฉม”
ทางด้าน นายพุทธิ ผาสุข อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association (TAJA) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสิน รถยอดเยี่ยมประจำปี 2568 เผยว่า “สำหรับรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ที่มีคุณสมบัติในปีนี้ จะต้องเป็นรถรุ่นใหม่ (New Model) ที่เปิดตัวสู่ตลาดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 แต่ปีนี้มีความพิเศษเป็นปีแรกในการนำรถที่มีการปรับโฉมตามอายุตลาด หรือ Minor Change เข้ามาพิจารณาชิงชัยรถยอดเยี่ยมประจำปี 2568 เพิ่มเติม โดยเรียกว่าเป็น “รถโฉมใหม่” (Model year) ตรงนี้สมาคมฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนระเบียบกฎกติกาใหม่ขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากคณะอนุกรรมการที่มาจากสมาชิกสมาคมฯ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์และได้รับการยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ให้เกียรติสมาคมฯ เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการร่างกฎระเบียบกติกาใหม่ให้มีความโปร่งใส รัดกุม และเกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด”
“การพิจารณารถรุ่นใหม่ (New Model) ยังคงยึดกติกาเดิม แต่เกณฑ์การพิจารณารถโฉมใหม่ (Model Year) ทั้งรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ จะมีหัวข้อในการพิจารณา 8 หัวข้อ แบ่งออกเป็น เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง, ช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว, ความปลอดภัย Active Safety, ความปลอดภัย Passive Safety, ดีไซน์ภายนอก, ดีไซน์ภายใน, การส่งเสริมการผลิตในประเทศ และการเพิ่มความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งในกลุ่มรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า จะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 65% และรถจักรยานยนต์ ไม่น้อยกว่า 55% ตามตารางเกณฑ์สำหรับการพิจารณา จากนั้นจึงจะส่งรายชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดให้กับสมาชิก สรยท. เพื่อทำการโหวตคัดเลือกรอบแรกจำนวนกึ่งหนึ่ง เพื่อเข้าสู่การพิจารณารอบสุดท้าย ที่จะเป็นการทดลองขับภาคสนาม ณ สนามทดสอบของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไป