กลุ่มอุตฯยานยนต์หนุนกฎหมายติดตั้ง Car Seat

ด้านผู้ประกอบการขานรับย้ำเน้นมาตรฐานการใช้งาน

 

นายกกลุ่มอุตฯยานยนต์ เผย กลุ่มฯหนุนกฎหมายติดตั้ง Car Seat เพื่อความปลอดภัยของเด็ก แต่ยังกังวลเพียงมาตรฐานของ Car Seat หลังจากมีการประกาศราชกิจจานุเบกษา ให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท และหากมีการฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาทนั้น ตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรทางบกนี้ จะมีผลบังคับใช้ ภายใน 120 วัน ตรงกับวันที่ 5 กันยายน 2565ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีใจความสำคัญคือ ป้องกันไม่ให้เด็กได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยการจัดที่นั่งที่เหมาะสมให้ โดยระบุใจความสำคัญในการป้องกันไว้ 3 รูปแบบ คือ ผู้ปกครองต้องจัดที่นั่งนิรภัย หรือ Car Seat สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบหรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หรือต้องจัดหาที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ หรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หรือหาวิธีป้องกันสำหรับเด็กที่โดยสารบนรถ 

 

จากกรณีนี้ตามความข้อกฎหมายจะเห็นได้ว่า ไม่ได้บังคับว่าจะต้องใช้เพียงที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือ Car Seat เพียงอย่างเดียว แต่ยังระบุว่าจัดหาที่นั่งสำหรับเด็กเช่น การจัดให้เด็กนั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ หรืออาจใช้วิธีการป้องกันอื่น ๆ เช่น การนำเด็กมานั่งตักและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งลักษณะและวิธีการป้องกันดังกล่าวต้องรอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่างข้อกำหนดให้ชัดเจนว่าการติดตั้งหรือจัดหาที่นั่งแต่ละแบบนั้นจะมีรูปแบบอย่างไร แบบไหนที่สามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ได้

 

 

A Car News สอบถามความคิดเห็นจาก นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้ความเห็นต่อ พรบ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ใหม่ที่บังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) ว่า เห็นด้วยกับประกาศฯนี้ เนื่องจากกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกเองก็กำหนดให้รถยนต์ใหม่ต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 54 และ พรบ. จราจรก็มีผลบังคับใช้ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์ตอนหน้าต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งตลอดการขับขี่หรือโดยสาร ดังนั้นเห็นควรบังคับให้ทุกที่นั่งต้องรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย

“ต่อกรณีนี้ที่ตนเป็นห่วง คือเด็กเล็กที่ต้องใช้ Car Seat ต้องมีมาตรการควบคุม 1. มาตรฐานของ Car seat สำหรับเด็ก ต้องมีความแข็งแรงรองรับการเกิดอุบัติเหตุได้ดี 2.ให้ความรู้ในการติดตั้ง Car Seat กับเบาะรถยนต์ เพราะรถบางคันยังไม่มีจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (Isofix) ให้ยึดวิธีการติดตั้ง Car Seat กับเบาะของรถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็มีวิธีที่แตกต่างกัน รวมทั้งการติดตั้ง Car Seat กับเบาะหน้าที่มี Airbag ติดตั้งอยู่นั้น อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กเล็ก ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าอุปกรณ์ไม่มีคุณภาพดีพอหรือติดตั้งไม่ถูกต้อง จะกลายเป็นความไม่ปลอดภัยแทน”

 

 

นอกจากนี้ผู้ประกอบการรถยนต์ นายวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จําากัด เผยว่าสำหรับประเด็น “ราชกิจจาฯ ประกาศ เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง Car Seat ฝ่าฝืนปรับ 2 พันบาทนั้น โดยรวมเห็นด้วยกับประกาศดังกล่าว เพราะทำให้เกิดความปลอดภัยในการโดยสารรถยนต์มากขึ้น ปกติแล้วผู้ใช้รถส่วนบุคคลก็สามารถซื้อหา Car Seat ได้ไม่ยาก เนื่องจากราคาที่ไม่สูงมาก แต่ก็จะมีประเด็นเป็นห่วงสำหรับรถโดยสารรับจ้างสาธารณะ เช่น แท็กซี่ ฯ ในจุดนี้ยังไม่ชัดเจนว่า ผู้โดยสารจะต้องทำการจัดเตรียม Car seat ไปด้วยเอง หรือต้องเป็นหน้าที่ของผู้ขับแท็กซี่จะต้องเตรียมให้กับลูกค้า”

 

ในส่วนของบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับเด็กในการติดตั้ง Car seat ความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน คือสิ่งที่มาสด้าให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้น มาสด้าจึงเห็นว่าการที่กฎหมายประกาศบังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่ง Car Seat จึงเป็นสิ่งที่มีความเหมาะสมที่สุด เพราะการที่เด็กไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เด็กจะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง หรือตัวอาจจะลอยไปด้านหน้าได้ นอกจากนั้น เด็กก็ยังไม่โตพอที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะเข็มขัดจะสามารถพาดอยู่บนตำแหน่งที่เหมาะสมบนสรีระของร่างกาย 

ดังนั้น การนั่ง Car Seat จะสามารถช่วยลดความรุนแรงและลดการบาดเจ็บได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ทั้งนี้แล้ว ทางภาครัฐเองก็ควรต้องมีมาตรการควบคุมราคาจำหน่ายของ Car Seat ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ในราคาที่เหมาะสมได้อย่างทั่วถึง

 

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนาวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ในเรื่องอุปกรณ์ Car Seat เป็นเรื่องของความปลอดภัยต่อการใช้รถใช้ถนน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดความรุนแรง เช่น เวลาขี่มอเตอร์ไซค์ก็จำเป็นต้องมีหมวกกันน็อค ซึ่งการที่ภาครัฐมีกฎหมายให้เริ่มใช้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรจะต้องให้เวลา ให้ความรู้กับความเข้าใจ ชี้แจงให้คนไทยได้ทราบล่วงหน้า พร้อมกับออกแนวทางนโยบายในการสนับสนุนในการลดภาษีนำเข้าร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวหาซื้อในราคาที่สมเหตุสมผล และเข้าใจวิธีการใช้อย่างถูกวิธี ในการซื้อรถก็ต้องสังเกตว่ามีพวก ISO Fix สำหรับติดตั้ง Car Seat หรือไม่ ซึ่งทางเอ็มจีทุกรุ่น ก็สามารถติดตั้ง Car Seat ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ต้องการให้เน้นถึงความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเป็นหลักสำคัญ

 

แหล่งข่าวจากบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึง ประกาศราชกิจจานุเบกษาเรื่องนี้ว่า หากมองถึงตัวรถยนต์ในแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ที่มีเข็มขัดนิรภัย ก็สามารถติดตั้ง Car Seat ได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับรูปแบบของ Car Seat ที่จะนำมาติดตั้ง ซึ่งไม่น่ามีปัญหา หากแต่เจ้าของรถต้องศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น เบาะหน้า ที่มีถุงลมนิรภัยไม่ควรติดตั้ง Car Seat เพราะจะเกิดอันตรรายกับเด็กได้ กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วถุงลมนิรภัยทำงาน

 

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง ตามที่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ได้กำหนดให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันอันตราย (Car Seat) นั้น ทางกรมการค้าภายในได้หารือกับห้างค้าปลีก-ค้าส่ง และแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า Car Seat ซึ่งจากการหารือกับห้างเซ็นทรัล และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยืนยันว่าไม่มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายสินค้า Car Seat ขณะเดียวกันจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ 

หากผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคาจำหน่าย ก็จะแจ้งให้กรมการค้าภายในทราบก่อน ส่วนห้างที่ยังไม่มีสินค้า Car Seat วางจำหน่าย ก็รับที่จะไปพิจารณาวางแผนการจำหน่ายต่อไป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้กำหนดให้สินค้า Car Seat เป็นหนึ่งในสินค้าที่ติดตามดูแล (Watch List) ประจำเดือน พ.ค. ซึ่งจะมีการติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิด กรณีที่มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ หากพบการฉวยโอกาสในลักษณะดังกล่าว ประชาชนสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ