ส.อ.ท.เผยตลาดรถเดือน ม.ค. 65

ผลิต 151,747 คัน ขาย 69,455 คัน ส่งออก 69,833 คัน

 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมกราคม 2565 ดังต่อไปนี้

 

การผลิต            

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม 2565 มีทั้งสิ้น 151,747 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 2.45 แต่ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 1.70 โดยเพิ่มขึ้นจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.88 และมีสัดส่วนเดือนนี้ถึงร้อยละ 49.23 ของยอดผลิตเพราะการผลิตส่งออกรถยนต์นั่งยังคงขาดเซมิคอนดักเตอร์ จึงผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลงจากมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 58.24

รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2565 ผลิตได้ 45,235 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 15.62

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมกราคม 2565 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 100

รถยนต์บรรทุก เดือนมกราคม 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 106,512 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 12.73

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 103,308 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 11.88 โดยแบ่งเป็น

- รถกระบะบรรทุก 28,617 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 22.55

- รถกระบะดับเบิลแค็บ 60,800 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 6.84

- รถกระบะ PPV 13,891 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 15

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนมกราคม 2565 ผลิตได้ 3,204 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 49.23

 

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนมกราคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 77,039 คัน เท่ากับร้อยละ 50.77 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 10.21

รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2565 ผลิตเพื่อการส่งออก 12,519 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 58.24

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2565 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 64,520 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 15.59 โดยแบ่งเป็น

- รถกระบะบรรทุก 8,618 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 7.99

- รถกระบะดับเบิลแค็บ 46,650 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 9.81

- รถกระบะ PPV 9,252 คัน  เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2562 ร้อยละ 72.68%

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนมกราคม 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศได้ 74,708 คัน เท่ากับร้อยละ 49.23 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 19.88

รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 32,716 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 38.44

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2565 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 38,788 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 6.21 ซึ่งแบ่งเป็น

- รถกระบะบรรทุก 19,999 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 30.10

- รถกระบะดับเบิลแค็บ 14,150 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 1.91

- รถกระบะ PPV 4,639 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 30.98

รถจักรยานยนต์

เดือนมกราคม 2565 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 211,409 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 3.89 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 169,171 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 1.99 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 42,238 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 21.93

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมกราคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 69,455 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 19.37 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 25.8 เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลได้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด19 การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ยิ่งใช้ยิ่งได้ ฯลฯ และการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ รวมทั้งการส่งเสริมการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ และการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะช่วยให้ยอดขายไตรมาสแรกเติบโตขึ้น ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 145,095 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 6.97 และลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 0.17

 

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป

เดือนมกราคม 2565 ส่งออกได้ 69,833 คัน โดยลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 31.07 และลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 5.80 ลดลงเพราะผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลงจากมกราคม 2564 ร้อยละ 58.24 จากการขาดเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลให้ส่งออกลดลงเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดออสเตรเลียและอเมริกากลางอเมริกาใต้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.09 และ 78.75 ตามลำดับ โดยมีมูลค่าการส่งออก 42,773.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 3.23

- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,942.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 38.39

- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออก 17,103.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 7.41

- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,164.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 27.35%

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 65,983.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 6.58 อย่างไรก็ตามการส่งออกเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ยังคงเติบโตตามการผลิตรถยนต์ของประเทศคู่ค้าที่กลับมาผลิตได้ตามปกติแล้ว

รถจักรยานยนต์

เดือนมกราคม 2565 มีจำนวนส่งออก 85,864 คัน (รวม CBU + CKD) โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 0.22 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 7.58 โดยมีมูลค่า 6,562.90 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 12.91

- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 142.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 26.56

- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 211.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 23.80

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมกราคม 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,917.36 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 12.45

เดือนมกราคม 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 72,900.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 4.43

 

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมกราคม 2565

เดือนมกราคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 628 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 74.44 โดยแบ่งเป็น

รถยนต์นั่งและรถกระบะมีทั้งสิ้น 264 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 69.23 

- รถยนต์นั่งจำนวน 261 คัน   

 - รถกระบะและรถแวนจำนวน 1 คัน 

 -  รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ จำนวน 2 คัน

รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 19 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 46.18

รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 345 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 80.63

-  รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 344 คัน

-  รถจักรยานยนต์สาธารณะ 1 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2565

ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 12,005 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100.58 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถกระบะมีทั้งสิ้น 4,397 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 87.59

- รถยนต์นั่งมีจำนวน 4,260 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 91.63

- รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 31 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 55

- รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 105 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 5

- รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 1 คัน เท่ากันกับปีที่แล้ว

รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 282 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 13.71

- รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 33 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 32

- รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 249 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 13.71

รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 7,088 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 116.56

- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 7,035 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 115.73

- รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 53 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 341.67

อื่น ๆ

- รถยนต์โดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 238 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 98.33