เปิดตัวยิ่งใหญ่ ในสนามแข่ง ! Isuzu D-MAX และ MU-X
ขุมพลังใหม่ 2.2 และ 3.0 Ddi MAXFORCE
เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่! ในแบบทางสายกลาง...
เรียกได้ว่าเป็นการกระตุ้นตลาดโค้งสุดท้าย ในปี 2567 ด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE…The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC ใหม่ ทั้งในตัว Isuzu D-MAX และ MU-X
สำหรับ Isuzu D-MAX และ MU-X ใหม่นี้ จะมากับขุมพลังใหม่อย่าง 2.2 Ddi MAXFORCE โดยขุมพลังบล็อกใหม่นี้ จะให้พลังแรงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที มาพร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ออกตัว เร่งแซงเร็วขึ้น กับแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้นถึง 56% นอกจากนั้นทาง Isuzu ยังเคลมไว้ว่าจะประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิมสูงสุด 10.7% (ข้อมูลจาก ECO Sticker ในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู เกรด L สภาวะนอกเมือง) รวมทั้งยังให้ค่า CO2 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน
โดยจะมากับหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงถึง 250 MPa. และ ECM ใหม่ แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง นอกจากนั้นยังมากับ E-VGS เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ใหม่ พร้อมห้องเผาไหม้แบบ High Swirl ที่เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์แบบ รวมทั้งลูกสูบใหม่แบบแรงเสียดทานต่ำพิเศษ และเสื้อสูบแบบขึ้นรูปแกร่งพิเศษ พร้อมระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่แบบ Hi-flow
ส่วนความใหม่ในเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ทางอีซูซุก็ได้ปรับปรุงใหม่ให้มีพละกำลังแรงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ด้วย ECM ใหม่ แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้งานที่ต้องการกำลังสูงเป็นพิเศษ
ส่วนในด้านดีไซน์รูปลักษณ์ของทั้ง Isuzu D-MAX และ MU-X นั้นยังคงเดิมโดย Isuzu D-MAX ยังมาพร้อมกระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวรูป 2 ชั้นสีเงิน และสีเทาเข้ม ติดตราโลโก้ Isuzu ไว้ตรงกลาง ขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งด้วยไฟหน้า Bi-Beam LED Projector ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง – ต่ำ / ระบบไฟหน้า Follow me home และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับ-พับไฟฟ้า, มือเปิดประตูโครเมียมและบันไดข้างสีเงิน
โดยใน Isuzu D-MAX จะเพิ่มไลน์อัพใหม่อีก 2 รุ่นได้แก่
Isuzu V-CROSS 4×4 (อีซูซุ วีครอส 4×4) 4 ประตู เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE
Isuzu D-Max Spark 4×4 (อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค 4×4) เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE
ในส่วนของรถเอนกประสงค์ MU-X ใหม่ ก็ยังคงดีไซน์เดิมเหมือนกับที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมาครับ ด้านหน้าจะมากับกระจังหน้าใหม่ BLACK DIAMOND GRILLE พร้อมสัญลักษณ์ RS สี LIME GREEN ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade พร้อมผสานดีไซน์สปอร์ตของชุดไฟท้าย เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอย RS Design ใหม่ ขนาด 20 นิ้ว / Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS
ส่วนภายในห้องโดยสารมาในโทนสีดำ พร้อมตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตใหม่ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเขียว LIME GREEN พร้อมติดตราสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ ขณะที่คอนโซลมาในโทนสีดำดีไซน์ใหม่ พร้อมตกแต่งด้วย Matte Silver นอกจากนั้นยังเสริมความหรูหราด้วยชุดไฟ Red Ambient Light
โดย Isuzu MU-X จะเพิ่มไลน์อัพใหม่ MU-X The Next Peak รุ่น RS เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE นอกจากนี้ยังมาพร้อมสีใหม่ “เทา เอลบรุส โอเพค” (Elbrus Grey Opaque) ใน Isuzu D-Max ครับ
ราคาจำหน่าย MU-X ในแต่ละรุ่น
NEW! MU-X RS 4×4 ราคาตั้งแต่ 1,759,000 – 1,771,000 บาท
NEW! MU-X RS ราคาตั้งแต่ 1,624,000 – 1,671,000 บาท
NEW! MU-X Ultimate ราคาตั้งแต่ 1,554,000 – 1,601,000 บาท
NEW! MU-X Elegant ราคาตั้งแต่ 1,429,000 – 1,476,000 บาท
NEW! MU-X Active ราคาตั้งแต่ 1,194,000 – 1,206,000 บาท
ราคาจำหน่าย Isuzu D-MAX ในแต่ละรุ่น
NEW! ISUZU V-Cross 4×4 รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 937,000 – 1,284,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Hi-Lander รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 778,000 – 1,171,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Cab4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 749,000 – 902,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spacecab ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 668,000 – 784,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark 4×4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 740,000 – 787,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 558,000 – 655,000 บาท
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่น่าสนใจ ของ Isuzu D-MAX และ MU-X ขุมพลังใหม่ 2.2 และ 3.0 ซึ่งสำหรับลูกค้าทีสนใจ สามารถสัมผัส พลังใหม่…กำหนดโลก ใน อีซูซุ ดีแมคซ์ และมิว-เอ็กซ์ ได้ที่ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป และในงาน Thailand International Motor Expo 2024 ณ อาคารชาเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ครับ
คุยหลังขับกับ กันต์ เย็นสบาย
ได้มาลองแล้วครับ กับ สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลทางเลือกใหม่ ในแบบ 2.2 DDI Max Force ของ isuzu ทั้งในตัวของ Isuzu d-max และ ISUZU MU X ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์ ที่เรียกว่าเป็นงานใหญ่ครบจบในตัว ทั้งงานเปิดตัว เปิดราคา การจัดสื่อดีลเลอร์มาทดลองขับทำความรู้จักรถ ที่จัดได้ยิ่งใหญ่ อลังการ จริงๆครับ
ไฮไลท์ความน่าสนใจของเครื่องยนต์อีซูซุ 2.2 Ddi MAX FORCE บล็อคนี้ อยู่ที่
-น้ำหนักที่เบาลงเกือบ 100 กก.
-การปรับใหม่ ทั้งในส่วนของ หัวฉีด-ห้องเผาไหม้ ลูกสูบ เพลาข้อเหวี่ยงและ เทอร์โบใหม่ e-VGS
-ความประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น รองรับเชื้อเพลิง ได้ถึงเกรด B20 และผ่านมาตรฐานยูโร 5
-แรงม้า ในเครื่อง 2.2 ใหม่นี้อยู่ที่ 163 แรงม้า ครับส่วน แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่1600-2400 รอบต่อนาที เพื่อช่วยในเรื่องการออกตัวและเร่งแซง
-เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Rev Tronic ที่เทียบกับเกียร์ 1.9 เดิม มีอัตราทด ที่ดีขึ้น พร้อมโอเวอร์ไดรฟ์ 2 ตำแหน่ง เน้นจังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่อง นุ่มนวล
รวมถึงยังมี ทางเลือกในรุ่นเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีดใหม่
ส่วนในเครื่องอีกรุ่น คือ 3.0 DDi Max Force 190 แรงม้า ก็มีการปรับ ECM หรือกล่องควบคุมหัวฉีดแบบ Multi-core ให้ทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในส่วนของการทดสอบขับ ในสนามแข่ง ISUZU D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi และ MU-X The Next Peak 2.2 Ddi สำหรับผมการตอบสนองของเครื่องยนต์ดีขึ้นกว่าตัว 1.9 Ddi และถ้าเทียบกับตัวเครื่องยนต์ 3.0 ในเรื่องของอัตราการกินน้ำมัน ก็ถือว่าเครื่องยนต์ 2.2 Ddi เป็นการปิดช่องว่างทางการตลาดได้เป็นอย่างดี เพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น ส่วนเกียร์ 8 สปีดแบบ REV TRONIC นี้ก็นุ่มนวลมากขึ้น อัตราเร่งและฟีลลิ่งการขับขี่ถือว่าดี โดยแรงบิดสูงสุดมาในรอบต่ำเพียง 1,600 รอบต่อนาที
ปิดท้าย ที่ การเพิ่ม Line up ใหม่สำหรับเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAX FORCE และ 3.0 Ddi MAX FORCE จะมีในรุ่น ISUZU V-CROSS, ISUZU D-MAX SPARK และ ISUZU MU-X ในรุ่น RS เท่ากับว่าภาพรวมการทำตลาด ของ Isuzu D-max และ ISUZU MU X ในตอนนี้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นเป็น 3 ทางครับ ทั้งในเครื่อง1.9 Bluepower แบบเดิม รวมทั้ง 2.2 และ 3.0 Max Force ที่เข้ามาเติมเต็ม เป็นทางสายกลาง ใน Line up นี้ครับ…