ลองขับ Mitsubishi XForce HEV Ultimate X
เดินทางไกล ใช้งานจริง ไฮบริด 2 สปีด เจนฯ ใหม่
แรงและประหยัดขึ้นแค่ไหน?
ทดลองขับโดย กันต์ เย็นสบาย
การปรับขุมพลัง HEV เวอร์ชั่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดในหลายด้าน ทั้งเครื่องยนต์ Generator มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ นิยามความต่างและโดดเด่นของคำว่า e-MOTION จากระบบ AYC (Active Yaw Control) ควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และการเปลี่ยนชุดคลัตช์ส่งกำลัง เป็นอัตราทด 2-speed จะทำให้ การบูสต์ อัตราเร่ง ดีขึ้นในทุกย่านความเร็ว และประหยัดน้ำมัน มากขึ้นหรือไม่ ภาพรวมการขับขี่เป็นอย่างไร นั่งสบายที่สุดในคลาส B-SUV ไฮบริด หรือไม่ ในบทความนี้ มีคำตอบ ครับ กับ Mitsubishi XForce …
ทดสอบสมรรถนะในแบบ กรุ๊ปเทสต์ กทม.-ฉะเชิงเทรา-ปราจีนบุรี-ปักธงชัย วังน้ำเขียว -เขาแผงม้า-เขาใหญ่
ทดสอบสมรรถนะในแบบ กรุ๊ปเทสต์ ในครั้งนี้ บนเส้นทาง กทม.-ฉะเชิงเทรา-ปราจีนบุรี-ปักธงชัย วังน้ำเขียว -เขาแผงม้า-เขาใหญ่ เริ่มต้นจุดสตาร์ทกันที่ ร้าน CINCIN - Brunch | Dinner & Wine ย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา เพื่อลงทะเบียนและรับประทานอาหารเช้า โดยมีผู้บริหารและทีมงาน ของทาง Mitsubishi ให้การต้อนรับ และให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ รวมถึงเส้นทางการเดินทางในการทดสอบ ตลอด 2 วัน ก่อนจะถ่ายภาพหมู่ร่วม Mitsubishi กัน ที่จุดสตาร์ท และล้อหมุนเริ่มออกเดินทาง เส้นทางที่เราออกจากกรุงเทพ ไปฉะเชิงเทรา และ มุ่งหน้าสู่ร้านอาหาร Arden Restaurant ที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยตลอดเส้นทางเจอฝน กระหน่ำ จนถึงที่ร้านเลยครับ…
หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ เดินทางกันต่อ ในการเดินทางทดสอบ ช่วงที่ 2 ที่เป็นการเดินทางแบบ Free Run จากร้าน Arden ที่ ปราจีนฯ - จนเดินทางมาถึง ร้านกาแฟ Curf Café คาเฟ่สีครีมแนวมินิมอล’ ทางขึ้นเขา ปักธงชัย วังน้ำเขียว ก่อนเดินทางต่อ สู่- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เพื่อชมวัวกระทิงและธรรมชาติแบบรอบทิศทาง ครับ
จาก เขาแผงม้า เราจะมุ่งหน้าเข้าที่พักของเราวันนี้ครับ ที่ Hotel Labaris Khao Yai โรงแรมรูปทรงการออกแบบที่นี่แปลกตา ในแบบดินแดนลึกลับอันเขียวขจีที่ถูกรายล้อมไปด้วยขุนเขาวงกตที่สลับซับซ้อน แต่เข้ากับธรรมชาติสุด ๆ โดยหลังจากเช็คอินเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราพร้อมกันที่ห้องอาหาร The Fable Feast Restaurant เพื่อทานอาหารค่ำมื้อพิเศษ ร่วมกับ ทางผู้บริหารและทีมงาน ของทาง Mitsubishi ครับ
มิติตัวภังภายนอก ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม B-SUV
Mitsubishi XForce ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Compact SUV ไม่ว่าจะเป็นความคล่องตัวในการขับขี่ ห้องโดยสารที่สะดวกสบาย และความอเนกประสงค์ของการใช้งาน ในทุกวัน การออกแบบภายนอก ดูแข็งแกร่งแบบของรถยนต์ Mitsubishi ทุกรุ่น มิติตัวถังภายนอกของ XForce HEV มีความยาว 4,390 มิลลิเมตร กว้าง 1,810 มิลลิเมตร สูง 1,650 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ ยาว 2,650 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อคู่หน้าและหลัง 1,565 มิลลิเมตร ระยะตำสุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) อยู่ที่ 183 มิลลิเมตร เทียบขนาดตัวถังภายนอกกับคู่แข่ง ทั้ง Toyota Yaris Cross, Honda HR-V, Nissan Kicks , Mazda CX-3 , XForce จะมีมิติตัวถังภายนอกใหญ่โตที่สุดในกลุ่ม B-SUV
การตกแต่งและอุปกรณ์ภายนอก ทุกรุ่นย่อยจะได้ไฟหน้า – ไฟท้าย Full-LED รูปทรง T-shape ล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED ฝาท้ายไฟฟ้า Power tailgate พร้อม Kick Sensor พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน 8 ตำแหน่ง
ขณะที่รุ่นท็อป Ultimate X ได้รับการอัพเกรดด้วยชุดแต่งภายนอก ทั้งชุดอุปกรณ์ตกแต่งชายกันชนด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง สัญลักษณ X F O R C E บนฝากระโปรงหน้า และฝาครอบบันไดสเตนเลส พร้อมไฟ LED พร้อมทางเลือกสีทูโทน 5 สี ขาว ดำ เทา เหลือง แดง ในแบบหลังคาสีดำ
ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย เบาะหลังเอนได้ เครื่องเสียงแจ่ม
แผงแดชบอร์ดด้านหน้ามาในสไตล์ Mitsubishi ยุคใหม่ เส้นสายต่าง ๆ ดูมีความแข็งแรง หนักแน่น เพิ่มสีสันด้วยวัสดุผ้า สีเทาอ่อน พวงมาลัย3ก้าน หุ้มหนัง เลื่อนปรับได้ 4 ทิศทาง ปุ่มควบคุมบนก้านพวงมาลัยฝั่งขวา เอาไว้ตั้งค่าการทำงานของระบบ Adaptive Cruise Control เลือกมุมมองกล้องรอบคัน และรับสาย – วางสายโทรศัพท์ ขณะที่ฝั่งซ้าย มีไว้เพื่อปรับการแสดงผลหน้าจอชุดมาตรวัด และควบคุมชุดเครื่องเสียง
คอนโซลกลางที่เชื่อมต่อจากแผงแดชบอร์ดด้านหน้า เป็นตำแหน่งติดตั้งแท่นชาร์จ Wireless Charger สวิตช์ Push Start/Stop คันเกียร์เป็นแบบไฟฟ้า Electronic Shifter แบบเดียวกับ XPander HEVแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศเป็นสวิตช์ แยกปรับอุณหภูมิได้อิสระทั้งซ้ายและขวา มีระบบกรองอากาศ Nanoe X ติดตั้งมาให้ทุกรุ่นย่อย และมีท่อต่อระบบปรับอากาศเป่าลมเย็นมายังกล่องเก็บของคอนโซลกลาง สำหรับคงอุณหภูมิเครื่องดื่มให้เย็นนานที่สุด
ชุดมาตรวัด ขนาด 8 นิ้ว มีฟังก์ชั่นตั้งค่าระบบต่าง ๆ ทั้งความปลอดภัย Diamond Sense ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ASC การแสดงข้อมูลการขับขี่ทำ ไม่ว่าจะเป็น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบ Real-time การทำงานของระบบ Active Yaw Control หน้าจอเข็มทิศ สถานะแรงดันลมยาง รวมถึงหน้าจอแสดงการไหลเวียนพลังงานในระบบ Hybrid
ส่วนหน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว ศูนย์รวมความบันเทิง ระบบแสดงข้อมูลตัวรถ และจอแสดงผลจากกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา กราฟฟิและความคมชัดดี การจัดวางเมนูต่าง ๆ มีความใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
เบาะนั่งคนขับสำหรับรุ่น Ultimate X เป็นสวิตช์ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง มี พื้นห้องโดยสารด้านหลังออกแบบให้มีพื้นเรียบ และเบาะหลังปรับเอนได้ โดยสารด้านหลังเต็ม 3 คน ได้สบาย ๆ บานฝาท้ายเปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่นเตะเปิด
เครื่องเสียงในรุ่นท็อป Ultimate X ให้มาเป็นแบบ Dynamic Sound Yamaha Premium ลำโพง 8 ตำแหน่ง คุณภาพเสียงดีงาม สามารถปรับจูน Sound Type ได้หลากหลายรูปแบบ โดยรวมถือว่าคุณภาพเครื่องเสียงดี เป็นอันดับต้น ๆ ในรถเซกเมนต์นี้เลยครับ
โดดเด่นที่ขุมพลัง HEV เวอร์ชั่นใหม่
จุดประสงค์หลักของการอัพเกรดขุมพลัง Hybrid เวอร์ชั่นใหม่ ที่นำมาติดตั้งเป็นครั้งแรกใน XForce HEV ในครั้งนี้ คือ การบูสต์อัตราเร่งดีขึ้นในทุกย่านความเร็ว และลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในย่านความเร็วเดินทาง
เครื่องยนต์ เบนซิน 1,590 ซีซี 107 แรงม้า ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร โดย หลักการทำงานของระบบ HEV เวอร์ชั่นใหม่ของ Mitsubishi ในรอบนี้ หน้าที่หลักของเครื่องยนต์มีอยู่ 2 ประการ อย่างแรกคือสร้างกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่เพื่อเป็นต้นกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ในการขับเคลื่อนรถที่ย่านความเร็วปานกลางต่อมาคือการส่งกำลังไปสู่ล้อควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะเร่งแซง ขึ้นทางชัน ผ่านชุดคลัตช์ส่งกำลังจากอัตราทด 1 จังหวะ เป็น 2 จังหวะ (2-speed Transaxle)
e-MOTION คือ การผสานข้อดีของ 3 องค์ประกอบหลักที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Hybrid ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น รวมถึงระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง AYC (Active Yaw Control) และโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
โดยที่ 5 โหมดแรกจะเป็นการปรับนำหนักพวงมาลัย การตอบสนองของคันเร่ง ความเข้มข้นในการเข้ามาช่วยของระบบ AYC รวมถึงระบบ Traction Control ที่ต่างกัน ทั้ง Normal Mode
Tarmac Mode เพื่อความแม่นยำในการบังคับควบคุมรถ คันเร่งตอบสนองไวขึ้น และระบบเกียร์จะเปลี่ยนเป็น B ให้อัตโนมัติ เพิ่มแรงหน่วง ช่วยชะลอความเร็ว ขณะถอนเท้าออกจากคันเร่ง
Wet Mode สำหรับการขับขี่บนพื้นเปียกลื่น Mud Mode สำหรับขับขี่บนพื้นโคลน Gravel Mode สำหรับการขับขี่บนพื้นกรวดหรือทางลูกรัง
ขณะที่อีก 2 โหมดที่เหลือนั้นจะเกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ คือ EV โหมดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และ EV Charge โหมดชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ติดเกือบตลอดเวลา ยกเว้นช่วงชะลอความเร็ว และเมื่อแบตเตอรี่ขึ้นไปถึง 5 ขีด หรือราว 80%
ความแตกต่างใน 3 รุ่นย่อย
Mitsubishi XForce มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ที่จะได้ ขุมพลัง HEV เวอร์ชั่นใหม่ กับการผสานข้อดีในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Hybrid ใหม่ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง AYC และโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบคานบิดกึ่งอิสระ Torsion Beam ระบบเบรกหน้าแบบมีครีบระบายความร้อน ขณะที่ด้านหลังเป็นจานเบรกแบบธรรมดา
ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ยางที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานเป็น Bridgestone ALENZA 001 ขนาด 225/50 R18 รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ และแพ็คเกจความปลอดภัย ที่เรียกว่า Diamond Sense มีติดตั้งมาให้ครบ ทุกรุ่นย่อย คือ
XForce HEV Ignite : 899,000 บาท
XForce HEV Ultimate : 1,039,000 บาท
XForce HEV Ultimate X : 1,089,000 บาท
ซึ่งความพิเศษ เพิ่มเติม ใน Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE X จะมีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นครับ ทั้งจากชุดแต่งภายนอก ตกแต่งชายกันชนด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์หลัง สัญลักษณ X F O R C E บนฝากระโปรงหน้าและชุดเครื่องเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง
สอบผ่านขับทดสอบ ประหยัดน้ำมัน
ในวันที่ 2 ของทดสอบสมรรถนะในแบบ กรุ๊ปเทสต์ ในครั้งนี้ มีกิจกรรม Workshop ที่ Rabbit Cafe ใน Hotel Labaris Khao Yai และการ Q&A หลังจากที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ร่วมกันถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก และออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Ribs mannn กันครับ
หลังรับประทานอาหารกลางวัน ทางทีม Mitsubishi มีกิจกรรมการขับทดสอบ ประหยัดน้ำมัน จากร้าน Ribs mannn ไปจนถึงปั้ม ปตท.ก่อนเข้าทางด่วนมอเตอร์เวย์ ระยะทางประมาณ 130 กม.แบบเส้นทางในเมือง30% + ทางหลักระหว่างเมือง 70% โดยผู้ที่ขับประหยัดได้ใกล้ eco sticker ที่สุด ขอนับคะแนนจากมากกว่าหรือเท่ากับ 24.4 กม/ลิตร จะเป็นผู้ชนะ
ซึ่งหลังจากขับทดสอบประหยัดน้ำมันกันไปแล้ว เราจะเดินทางไปกันต่อที่ร้าน CIN CIN เพื่อประกาศผล การขับประหยัดน้ำมัน ซึ่งคันที่ ทาง ACARNEWSONLINE กับเพื่อนสื่อมวลชนอีก 2 ท่าน ในรถเบอร์ 8 ทำตัวเลข ขับประหยัดน้ำมัน ได้ อยู่ที่ 24.7 กม/ลิตร ครับ
คุยหลังขับ กับ กันต์ เย็นสบาย
ทุกวันนี้ ตลาดรถยนต์ B-SUV ได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก กับรถใต้ท้องสูงขนาดเล็ก 5 ที่นั่ง มีความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง ขณะเดียวกันก็ต้องมีคุณภาพการขับขี่ที่ดี ในช่วงที่ผ่าน เราจึงจะเริ่มเห็น B-SUV ไฮบริด รุ่นใหม่ ที่พัฒนาขึ้นเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง
ทาง Mitsubishi เอง เค้าก็หมายมั่นปั่นมือ ในการทำตลาดรถรุ่นนี้ มาก ๆ ทั้งการเลือกแนะนำขุมพลัง HEV เวอร์ชั่นใหม่ ผ่าน XForce เวอร์ชั่นไทย เป็นที่แรกในโลก ตลอดจนการทดสอบสมรรถนะและความทนทานของระบบกันสะเทือน ที่ปรับจูนเป็นพิเศษสำหรับตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะ ด้วยระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 กิโลเมตร
สำหรับผม จากการลองขับและสัมผัสรถ XForce HEV ก็เด่นหลายจุดครับถ้าวัดกันเฉพาะกลุ่ม B-SUV ไฮบริด ในบ้านเรา ทั้งในเรื่อง ขุมพลัง HEV เวอร์ชั่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดในหลายด้าน ทั้ง เครื่องยนต์ Generator มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ทำให้การบูสต์อัตราเร่งดีขึ้นในทุกย่านความเร็ว และลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในย่านความเร็วเดินทาง จะขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวล
โดยระบบไฮบริดจะทำการสลับเองโดยอัตโนมัติไม่ว่าจะเป็น serie หรือ parallel low / parallel high และที่สำคัญ ยังมี การตัดมอเตอร์ disconnect เผื่อการประหยัดน้ำมันสูงสุด โดยระบบHEVคำนวนให้เองว่าแบบไหนประหยัดน้ำมันที่สุดในขณะนั้น ที่สำคัญระบบจะสลับเองแบบsmooth ไร้รอยต่อ
ส่วนเรื่องของขนาด ดีไซน์รูปทรงและ ออพชั่นภายในห้องโดยสารสอบผ่านครับ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ครบ รวมทั้งประสิทธิภาพการยึดเกาะของช่วงล่าง จากระบบ AYC ที่และ 7 โหมดการขับขี่ ที่ปรับพวงมาลัย คันเร่ง และระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพถนนแต่ละรูปแบบ ที่ใช้งานได้ไม่ยาก และ ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ช่วยทั้งสำหรับผู้ขับมือให้ขับขี่ ควบคุมรถ เดินทางไปไหนมาไหนอย่างสนุก สบายและมั่นใจในตัวรถมากขึ้น ด้วยครับ