Funtast(e)tic

ไปกับ นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์

 

ทดลองขับโดย : วชิระ เรืองมาลัย

 

จะไปนอนสุราษฎร์ฯ เครื่องบินไปก็มีไม่ไปลง เลือกบินไปชุมพร ลงชุมพรเสร็จจะขับรถตรงไปสุราษฎร์ฯ ก็ไม่น่าจะไกล มันคงง่ายไป เอางี้เราขับไประนอง พังงา เกือบถึงภูเก็ตก่อน เสร็จแล้วก็วนกลับมาเช็คอินนอนที่สุราษฎร์ฯ กัน 

คืนก่อนเดินทาง นอนตี 1 ตื่น ตี 3 กินกาแฟ อาบน้ำตอนตี 4 ออกจากบ้านเกือบตี 5 ถึงดอนเมือง ตี 5 ครึ่ง เช็คอินสนามบิน ขึ้นเครื่อง 7 โมง สรุป ไปถึงโรงแรมที่สุราษฎร์ฯ 2 ทุ่ม ทั้งหมดนี้ทำไปเพราะ นิสสัน เซเรน่า อีพาวเวอร์ ล้วน ๆ 

 

 

 

ทริปนี้พิเศษครับ ไปร่วมพิสูจน์ความสบาย สมรรถนะการขับขี่แบบรถยนต์ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 100% และความสบายสไตล์ห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่พร้อมอรรถประโยชน์ของนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ในคอนเซ็ปต์ “Big. Easy. Fun.” บนเส้นทางชุมพร-สุราษฎร์ธานี (เราขับอ้อมไปทางระนอง จนเกือบถึงพังงา) ระยะทางประมาณ 500 กว่า กิโลเมตร โดยนิสสันได้เติมสีสันน่าตื่นเต้นให้กับทริปนี้ในธีม “Funtast(e)tic” ด้วยการร่วมมือกับเชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะนะสุต เชฟ และพิธีกรรายการ Foodwork เพื่อเชื่อมโยงความสนุกในทุกมิติ ทั้งในด้านการเดินทาง และการสำรวจวัฒนธรรมอาหารของแต่ละท้องถิ่น โดยเชฟบุ๊คจะรังสรรค์เมนูพิเศษที่จัดเฉพาะผู้ร่วมทริป มัดรวมอาหารใต้ผสมกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น จัดเสิร์ฟในเบนโตะสุดชิคสำหรับรับประทานในรถระหว่างทาง 

 

 

 

เส้นทาง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 510 กิโลเมตร

เริ่มต้นเส้นทางจากจุดแรก สนามบินชุมพร มุ่งหน้าทิศตะวันตกสู่จังหวัดระนอง เมืองเล็กชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่ยังคงมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทั้งภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าเขียวชุ่มชื้นตลอดทั้งปี และทะเลที่สวยงาม เป็นแหล่งแร่ดีบุกที่สำคัญในอดีต

เส้นทางช่วงแรกจากจังหวัดชุมพรไปยังระนอง จะยังคงเป็นไฮเวย์ ทางโค้งกว้าง ๆ ให้ได้พิสูจน์เรื่องความเร็ว สลับกับทางขึ้นลงเนินเขายาว ๆ ให้ได้ทดสอบการใช้งานของเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ และฟีเจอร์สำคัญ ๆ เช่น อี-เพดัล สเต็ป (e-Pedal Step) ที่ช่วยให้ลดหรือเร่งความเร็วทันทีได้ด้วยการใช้คันเร่งอันเดียว

 

 

 

ไฮไลต์สถานที่สำคัญจุดแรก ได้แก่ น้ำตกปุญญบาล อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี น้ำตกสายเล็ก ๆ ที่มองเห็นได้จากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 หรือ เพชรเกษม ไม่ไกลจากตัวเมืองระนอง เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลทั้งปี ล้อมรอบด้วยป่าเขียวชะอุ่ม ให้ความชุ่มชื้น เย็นสบาย

จากน้ำตกปุญญบาลไปยังจุดที่สอง เป็นจุดแวะพักที่บ้านไร่ไออรุณจะผ่านภูเขาหญ้า เนินเขาที่คลุมด้วยหญ้าเขียวสดในฤดูฝน และเป็นสีทองในฤดูแล้ง เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว  เส้นทางในช่วงนี้ยังคงเป็นทางกว้าง สามารถใช้ความเร็วได้ และทางขึ้นลงเนินเขายาว ๆ ให้ได้ทดสอบการใช้งานของเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เช่นเดียวกันกับในช่วงแรก

จากนั้นจะตัดเข้าสู่ตอนบนของจังหวัดพังงา ผ่านอำเภอตะกั่วป่า เมืองเล็กในหุบเขาที่ยังคงมีอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ที่ผสานกลิ่นอายความดั้งเดิม กับเสน่ห์แห่งความทันสมัยของสตรีทอาร์ทที่ตกแต่งตามกำแพงอาคาร  

 

 

 

ในช่วงผ่านใกล้ตัวเมือง และชุมชน บางช่วงต้องขับขี่ผ่านเมืองที่มีถนนแคบ การจราจรค่อนข้างวุ่นวาย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสการขับขี่ที่คล่องตัว และผ่อนแรงผู้ขับขี่ด้วยอี-เพดัล สเต็ป รวมทั้งให้ความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View – IAVM) พร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection - MOV)  เทคโนโลยีเตือนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมเทคโนโลยีป้องกันการชนในมุมอับสายตา (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI)  เทคโนโลยีการเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) พร้อมเทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Brake - IEB) เทคโนโลยีหยุดฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS) และอื่นๆ อีกมากมาย

ช่วงสุดท้ายของเส้นทางนี้ จะเลี้ยวไปทางทิศตะวันออกมุ่งหน้าสู่เขาสก สุดปลายทางที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นถนนกว้าง ค่อนข้างเรียบ เหมาะกับการพิสูจน์สมรรถนะและการเร่งแซงได้อย่างปลอดภัย แต่ท้าทายด้วยเส้นทางคดโค้งขึ้นลงเขา บางช่วงจะมีความชัน  ให้ได้ทดสอบการรีชาร์จไฟของเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับชื่นชมความงามตามธรรมชาติของภูเขาตลอดเส้นทาง

 

 

 

ทริปนี้ได้ทดสอบสมรรถนะและอัตราเร่งของนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ได้อย่างเต็มที่ เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ในนิสสัน เซเรน่า รุ่นนี้ ประกอบด้วยชุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ให้พลังสูงถึง 163 แรงม้า ให้แรงบิด 315 นิวตันเมตร สามารถออกตัวได้เร็ว เร่งแซงได้อย่างทันใจ มั่นใจ โดยไม่ต้องรอรอบ เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100%  พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.77 kWH ขณะที่ชุดเครื่องยนต์สำหรับสร้างกระแสไฟฟ้า เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในใหม่รหัส HR14DDe ขนาดความจุ 1.4 ลิตร 3 สูบ แบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น ที่พัฒนามาสำหรับเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์โดยตรง ให้ประสิทธิภาพสูงในการสร้างกระแสไฟฟ้า

เส้นทางมีความคดโค้ง ขึ้นลงเนินเขา เหมาะกับการทดสอบการบังคับควบคุมรถ และการใช้งาน อี-เพดัล สเต็ป ที่ช่วยให้การลดความเร็วเมื่อเข้าโค้งหรือลงเนินเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย ราบรื่น 

ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารภายในรถ ยังคงนั่งสบาย ด้วยเบาะนั่งทั้ง 3 แถวที่ใช้โครงสร้าง Zero Gravity บานหน้าต่างกว้างที่ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง ลดอาการมึน เวียนศีรษะ เมารถได้   อีกทั้งยังให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ชื่นชมกับวิวสองข้างทางได้อย่างเต็มที่ไม่มีอะไรบดบังสายตาแล้ว

 

 

 

บรรยากาศในห้องโดยสาร ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น ด้วยเบาะแถว 2 แบบ Captain Seat สามารถปรับแยกได้อย่างอิสระ พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์แบบพับได้ ส่วนแถว 3 สามารถปรับเอนและพับเก็บได้ ภายในยังเพิ่มความสะดวกสบายมากมาย อาทิ ห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่พร้อมช่องเก็บของใต้พื้น ที่วางแก้วมากถึง 17 จุด  ช่องชาร์จ USB-C ทุกแถวที่นั่ง รวมทั้งยังมีช่องชาร์จแบบ A ในที่นั่งแถวหน้า และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย

นั่งกัน 5 คนทั้งรถสลับตำแหน่งกันจนทุกคนได้สัมผัสกับความสะดวกสบายภายในตัวรถ ผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่สามารถทดลองเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ 3 โหมดหลักได้เต็มที่ ได้แก่ Standard mode ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัด, Sport mode ที่เน้นการตอบสนองรวดเร็ว ขับสนุกสไตล์สปอร์ต Eco Mode ที่เน้นการประหยัดพลังงาน ให้การขับขี่นุ่มนวล โดยมี ฟังก์ชัน B ที่เพิ่มแรงหน่วง หรือ ช่วยเบรก และเพิ่มการฟื้นฟูพลังงาน หรือ Regenerative รวมถึง EV mode ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ สัมผัสถึงความเงียบและอีกขั้นของความประหยัด

 

 

 

นอกจากจะได้ทดสอบสมรรถนะและการขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงพิสูจน์อัตราเร่งแล้ว ยังจะได้สนุกกับการใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของรถ เช่น หน้าจอ TFT 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูงให้ภาพคมชัด พร้อมกราฟิกเคลื่อนไหว 3 มิติ สามารถเลือกการแสดงผลหน้าจอตามต้องการและเลือกแสดงผลเป็นภาษาไทยได้หน้าจอทัชสกรีนพร้อมระบบ NissanConnect ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมทั้งยังมีปุ่ม Camera สำหรับระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring : IAVM) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพรอบตัวรถครบทุกทิศทาง เพิ่มความปลอดภัย 

นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ยังสร้างประสบการณ์ประทับใจในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง ด้วยความสะดวกสบายผ่อนคลาย เติมความสุข สนุกสนานให้กับการเดินทาง เหมือนยกห้องนั่งเล่นมาไว้ในรถ เพราะสามารถปรับที่นั่งได้ถึง 13 แบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นโหมดขนกระเป๋า โหมดเพิ่มพื้นที่ช่วงขา โหมด "Travel-to-the-sea" และโหมด "Fun-at-the-back" ที่ปรับเบาะแถว 2 และ 3 ราบเป็นห้องนั่งเล่น ขณะเดียวกัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3 โซนพร้อมระบบฟอกอากาศ Plasmacluster ที่ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ภายในห้องโดยสารยังช่วยให้ทุกการเดินทางในเมืองที่การจราจรหนาแน่นมีความปลอดภัยต่อสุขภาพและในย่านเมืองมีโอกาสได้ทดลองการขับขี่ในตัวเมือง สนุกกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของนิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ เช่น ปุ่มกดสำหรับเลือกตำแหน่งเกียร์ ที่ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ด้วยการกดปุ่มแทนการโยกคันเกียร์ ใช้งานได้ง่าย มีไฟเรืองแสงช่วยให้เห็นชัดเจนแม้อยู่ในที่มืด ปุ่ม N Hold Mode ที่ทำให้สามารถเข็นรถได้ง่ายเมื่อจอด ให้ความสะดวกเมื่อต้องจอดซ้อนคัน รวมถึง เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold ที่เสริมความสะดวกในการใช้งาน

 

 

 

นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ออกแบบมาด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดตามแบบฉบับญี่ปุ่นในการบริการด้วยหัวใจ อาทิ ประตูท้ายที่ให้เลือกเปิดแบบเปิดครึ่งบานหรือเต็มบานก็ได้ ซึ่งเมื่อเปิดครึ่งบาน จะประหยัดพื้นที่ เปิดได้แม้จอดชิดผนัง และสามารถหยิบหรือนำของเข้าหรือออกจากท้ายรถได้สะดวกไม่ต้องกลัวของหล่น ซื้อของที่ระลึกจากทุกที่ได้เต็มพิกัด  ปุ่มเปิดประตูที่ติดตั้งใกล้ที่นั่งแถวที่ 3 ให้ความสะดวกแก่ผู้โดยสารด้านหลังสามารถเปิดประตูได้สะดวก ไม่ต้องรอให้คนอื่นเปิดให้

การออกแบบภายในรถที่ทำให้เดินจากด้านหน้าไปด้านหลังได้ให้ความสะดวกสำหรับผู้โดยสารโดยเฉพาะเมื่อต้องดูแลผู้โดยสารที่ไม่ได้นั่งในแถวเดียวกัน  เบาะที่นั่งสามารถปรับเพิ่มระยะห่างระหว่างที่นั่งได้ เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้โดยสารแต่ละคน รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ช่วยให้ทุกการเดินทางน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

จบทริปด้วยความประทับใจ เป็น 500 กว่ากิโลเมตรที่ ได้ใช้งานรถแบบครบทุกฟังก์ชั่น พบว่าเซเรน่า อี พาวเวอร์ นับเป็นรถครอบครัวที่น่าใช้งาน อีกคันหนึ่งทีเดียวครับ ได้รถสเปกนำเข้าญี่ปุ่นในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่น่าเล่าหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่งาน มอเตอร์โชว์ เมษายนที่ผ่านมาตอนนี้มียอดจองทะลุไปกว่า 1,300 คันเลยทีเดียว