ขับเกีย EV5 ลัดเลาะโค้งเชียงราย-พะเยา-น่าน

รวมระยะทาง 358 กม.

 

ทดลองขับโดย ภัชรี เอกฉัตร์

 

อะคาร์ นิวส์ ได้ร่วมขบวนการทดลองขับ เกีย EV5 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ของค่ายเกีย ที่ทำราคาขายได้น่าสนใจไม่น้อย แม้ราคาจะใกล้ 1.5 ล้านบาท แต่ด้วยสมรรถนะรูปร่าง หน้าตา ถือว่าเป็นรถที่คุ้มค่า น่าใช้ ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะทริปทดสอบ ที่จัดเต็มให้ได้ขย่มเกีย EV5 กันอย่างจัดหนัก จัดเต็ม

บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ “The Kia EV5” รถยนต์เอสยูวีขนาดกลางไฟฟ้า 100%  และมีการจัดทริปเดินทาง สำหรับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับสมรรถนะด้านการขับขี่ที่มาพร้อมความสะดวกสบายและความคล่องตัวจากพื้นที่โดยสารที่กว้างขวาง ภายใต้ธีม ‘Make A Bold Move’

  

 

การจัดทริปทดสอบรถยนต์ในครั้งนี้ เกียได้วางรูปแบบเป็น Smart Glamping บน 2 เส้นทางที่น่าตื่นตาตื่นใจในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยเส้นทางแรกเริ่มต้นจาก จังหวัดเชียงราย  ไปยังจังหวัดน่าน (ระยะทางรวม 358 กม.) The Kia EV5 ที่นำมาใช้ทดสอบสมรรถนะใน

ทริปนี้ ประกอบด้วย รุ่น Earth Long Range และรุ่น Earth Exclusive AWD ซึ่งทั้งสองรุ่นเพียบพร้อมด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ให้ความอเนกประสงค์ ความสะดวกสบาย พร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครสำหรับสไตล์การขับขี่ในทุกรูปแบบ

  

 

การทดลองรถครั้งนี้ แอดมินได้หมายบินไปยังจังหวัดเชียงราย ขับผ่านพะเยา และจบที่จังหวัดน่าน สำหรับรถคันที่เราได้ เป็นรถเกีย EV5 รุ่น  Earth Long Range การทดสอบในครั้งนี้มีผู้ร่วมขบวนมากมาย เรียกว่าเกียทำถึงจริง ๆ ลงทุนให้สื่อได้ขับกันเต็มสมรรถนะ สำหรับอะคาร์ ได้บัดดี้คู่ซี้เป็น จุฑารัตน์ อุ้มญาติ จาก มอเตอร์ รันนิ่ง เช่นเดิม คันของเรามี 3 คน 2 สื่อ วันนี้ดิฉันของรับอาสาเป็นสารถี ในหมายแรกก่อนเลย สตาร์ทกันที่ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย หลังจากบรีฟเรียบร้อย ขบวนของเราไม่รีรอ เพราะจุดหมายอีกไกล รวมระยะกว่า 300 กม.

  

 

ไม้แรก หลังดิฉันโดดประจำตำแหน่งผู้ขับขี่ บอกเลยว่าชอบในรูปลักษณ์ของเกีย EV5 ภายนอกโดนใจ ภายในห้องโดยสารก็จัดว่ากว้างขวาง  สะดวกสบาย มาพร้อมกับความอเนกประสงค์ของตัวรถ ทั้งในด้านพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่สามารถปรับใช้งานได้ตลอดการเดินทาง

อย่างที่เกริ่นมาแล้วว่า แอดมินขับไม้แรกจากเชียงราย ตลอดเส้นทางเป็นทางราบ สลับทางเขา EV5 ให้อารมณ์นิ่ง แน่น ตลอดการขับขี่ มีในบางจังหวะที่ รู้สึกถึงความโยน ๆ ในตอนท้าย แต่ด้วยช่วงแรกรับหน้าที่ถือพวงมาลัย ก็จัดไปเกือบ 100 กม. การเร่งแซงก็ทำได้ดี ความแม่นยำ หรือความหนักแน่น ของรถก็ดี เรียกว่าให้เกือบเต็มเชียวล่ะ

  

 

จากเชียงรายมาถึง จุดพักร้านกาแฟ มาจู คาเฟ่ ที่เชียงคำ จิบกาแฟ เคล้าธรรมชาติ ดื่มด่ำกับความเขียวขจี ของต้นไม้ ใบหญ้า ท้องฟ้า สายน้ำ เออ...มันงดงามดังภาพวาดจริง ๆ หลังจากชื่นชมทิวทัศน์สักพัก เราก็ต้องเดินทางต่อไป ยังร้านอาหาร ณ คาเฟ่ภูลังกา เลอบาโคนี่ ในมือกลางวันดิฉันรับประทานอาหารเบา ๆ เพราะช่วงบ่ายต้องเจอะเจอกับโค้งมากมาย กว่าจะปีนป่ายไปยังสะปัน

  

 

มื้อบ่าย ประจำการ ที่นั่งโดยสารตอนสอง ความกว้างขวาง เหมือนห้องนั่งเล่นในบ้านมากกว่าเป็นเพียงห้องโดยสารรถยนต์แบบทั่วไป โดยในรุ่น Earth Exclusive AWD มีเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่แบบ Relaxation Seat ที่มาพร้อมฟังก์ชันการนวดถึง Air-Cell 4 โหมด ถึง 6 จุด รวมถึงที่พักขาแบบปรับไฟฟ้าได้ The Kia EV5 ทุกรุ่นมีพื้นที่วางขาและพิงศีรษะที่กว้างขวาง รวมถึงระบบเพื่อความบันเทิงและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ ช่วยให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางเป็นประจำ The Kia EV5 รุ่น Earth Exclusive AWD มีกล่องทำความเย็นและอุ่นร้อนที่คอนโซลกลางสำหรับใช้อุ่นอาหารและแช่เย็นเครื่องดื่ม มาพร้อมเบาะหลังอเนกประสงค์ที่สามารถพับเป็นโต๊ะได้เพื่อวางแท็บเล็ตและให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถเพลิดเพลินไปกับ Snack box ในระหว่างการเดินทางได้ นอกจากนี้ The Kia EV5 รุ่น Air, Earth Long Range และ Earth AWD ยังมาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาอีกด้วย  

  

 

นอกจากนี้ ในทริปทดสอบรถยนต์ The Kia EV5 ยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับสื่อมวลชน ‘กล้า’ ที่จะทำสิ่งดี ๆ ร่วมกัน (Bold) ด้วยการมีส่วนร่วมกันแบบง่าย ๆ แต่ช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ด้วยการร่วมปลูกต้นไม้ โดยสื่อมวลชนจะได้รับกระดาษที่มีเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ที่สามารถนำไปปลูกได้จริง โดยต้นกล้าจากกิจกรรมดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทางของแต่ละทริป ได้แก่ จังหวัดเชียงราย และ จังหวัดน่าน เพื่อนำไปปลูกสร้างพื้นที่สีเขียวต่อไป

  

 

สำหรับรุ่นที่เราขัยมานั้น มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก ในขณะที่ให้ระยะการวิ่งจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC ได้ไกลมากถึง 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่ง

 

 

EV5 รุ่น Earth Long Range ยังมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม ทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง (RCCA) ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง (BCAA) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ (BVM) ระบบ Smart Cruise Control (SCC) พร้อม Stop & Go รวมไปจนถึงระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม ช่วยให้รถยนต์วิ่งอยู่ตรงกลางของช่องจราจร และช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะเปลี่ยนช่องจราจร ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist) อีกด้วย การขับขี่ในครั้งนี้ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารมั่นใจตลอดการเดินทางด้วยระบบต่าง ๆ ที่มอบให้แบบครบครัน

หลังจากขับโยกเยกจากเชียงราย ถึงสะปัน จังหวัดน่าน หลังถึงที่หมาย และได้ชิลกับบรรยากาศที่พักแล้ว ทุกสื่อหายจากอาการกระอักกระอ่วนมวนท้องกันเลยทีเดียว สวยงามมากจริง ๆ สำหรับทริปนี้ต้องขอบคุณเกีย ประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้อะคาร์ได้ร่วมสัมผัสเทคโนโลยีล้ำสมัยและ ได้ชมความงดงามของธรรมชาติในฤดูฝน ขอบคุณมากจ้า