NEW MAZDA ESSENTIAL COLLECTION

ใส่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน

แรงและประหยัดน้ำมัน ราคาสุดคุ้มค่า

 

ทดลองขับโดย : วชิระ เรืองมาลัย

 

การแข่งขันของอุตสาหกรรมรถยนต์ในบ้านเรายังคงดุเดือดร้อนแรง โดยเฉพาะค่ายรถจากจีน ที่ใช้กลยุทธ์ราคาเป็นหลักในการกระชากผู้บริโภค จนทำให้เกิดความคุ้นชิน กับเกมนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้รถญี่ปุ่นอย่างมาสด้า ซึ่งยังไม่มีรถพลังงานทางเลือกให้ลูกค้าในเมืองไทย จำเป็นต้องปรับตัวรับสถานการณ์เช่นกัน ด้วยการคลอดรุ่นใหม่ ที่ตรงใจ พร้อมลดออพชั่น ที่ลูกค้าไม่ต้องการออกและทำราคาลง ซึ่งมาสด้าจะใช้รุ่นนี้เป็นไฟลท์ติ้ง ตีกันคู่แข่งจีนและดักลูกค้าที่ใช้ราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อโดยเรียกรถรุ่นนี้ว่า NEW MAZDA ESSENTIAL COLLECTION

 

 

ประเดิมด้วย รถรุ่นยอดนิยม 3 รุ่น ได้แก่ NEW MAZDA2 ESSENTIAL, NEW MAZDA CX-3 ESSENTIAL และ NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL ในทุกโมเดลมาพร้อม 3 ทางเลือกที่ตอบโจทย์ ประกอบด้วย รุ่น PRIME มอบความคุ้มสุด, รุ่น ULTRA มอบความสบายสุด และ รุ่น SIGNATURE มอบความพร้อมสุดโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV ถ่ายทอดดีเอ็นเอแบบฉบับรถยนต์มาสด้า

 

 

มาสด้านำสื่อมวลชนร่วมออกเดินทางไปสัมผัสสมรรถนะในการขับขี่ของยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด บนเส้นทางการทดสอบสามเส้นทางสามสไตล์ จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยัง ชลบุรี สระบุรี และอยุธยา หลังจากเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่ 3 รุ่นรวด ภายใต้กลุ่ม NEW MAZDA ESSENTIAL COLLECTION ประกอบด้วย NEW MAZDA2 ESSENTIAL, NEW MAZDA CX-3 ESSENATIL และล่าสุด NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL ซึ่งเป็นรถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าชาวไทย โดยทางมาสด้าได้มีการปรับอุปกรณ์มาตรฐานและชื่อรุ่นย่อยใหม่

 

 

วัตถุประสงค์เพื่อมอบทางเลือกที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย กับรุ่นเริ่มต้นใหม่ ที่คุ้มค่าคุ้มราคา มีราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังครบครันด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง และระบบความปลอดภัยมาตรฐานตามแบบฉบับของรถยนต์มาสด้า รวมถึงช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกที่เหมาะสมกับความต้องการด้านการใช้งานของตนเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นนี้ ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นรถมาสด้าไว้อย่างครบถ้วนทุกประการ ตามหลักคุณค่า 5 องค์ประกอบ ได้แก่

Artful Design การออกแบบสร้างสรรค์ดุจงานศิลปะชิ้นเอก Car as Art ถ่ายทอดภายใต้คอนเซ็ปต์ KODO: Soul of Motion จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว โดดเด่นด้วยความสวยงามต้องตาต้องใจผู้พบเห็น ทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงสีภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาสด้าที่ผลิตขึ้นด้วยแนวทาง “ทาคุมินูริ” ที่หมายถึง การเพ้นท์สีโดยช่างผู้ชำนาญการ

Japanese Mastery ความเชี่ยวชาญ พิถีพิถันในแบบฉบับของญี่ปุ่น คุณค่าระดับสูง ที่สัมผัสได้จากคุณภาพอันประณีตพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด และมีเสน่ห์เฉพาะของชาวญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดลงในทุกองค์ประกอบของรถมาสด้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการตัดเย็บและการคัดสรรวัสดุภายในที่ประณีตดุจงานทำมือ แบบสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น

Human-Centricity การออกแบบโดยเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยคำนึงถึงการใช้งานตามหลักสรีรศาสตร์ของมนุษย์เป็นหลัก ทั้งในเรื่องตำแหน่งผู้ขับขี่ การจัดวางอุปกรณ์ความสะดวกต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร รวมถึงการจัดวางตำแหน่งเบาะนั่งที่ช่วยรักษากระดูกสันหลังให้มีรูปทรงตัว S ทำให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่

Effortless Joyful Driving ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและควบคุมง่ายดั่งใจ กับระบบการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล มั่นใจทุกการเข้าโค้ง พร้อมรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงระบบความปลอดภัย i-Activsense ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้องและโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟช่วยลดการบาดเจ็บให้น้อยที่สุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

Ingenious Solution นวัตกรรมอัจฉริยะขั้นสูง อาทิ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟประสิทธิภาพสูงที่มีจุดเด่นทั้งด้านสมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันอันยอดเยี่ยม มีทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G และเครื่อยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล SKYACTIV-D รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE ที่โดดเด่นด้วยการรวมทุกข้อดีของเกียร์อัตโนมัติจากทุกระบบเข้ามาไว้ด้วยกัน ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ การเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว

  

 

ในทริปนี้ A CAR NEWS เป็นกรุ๊ปสุดท้าย เส้นทางกรุงเทพฯ – อยุธยา ระยะทางเกือบ 100 กม. ขับชิล ๆ เพลิน ตามศักยภาพผู้ขับ 555 ผมได้ขับรถ NEW MAZDA CX-3 ESSENTIAL COLLECTION เป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นเริ่มต้น ที่มากับคอนเซ็ปต์ “The First SUV that Feels Right เอสยูวีคันแรกที่ใช่” ด้วยการเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มีความคุ้มค่าเหนือราคา อัดแน่นด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยมไว้เต็มคัน ให้อุปกรณ์ครบทุกอย่างที่ต้องการ มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA รวมไปถึงกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง (Back Monitor) เป็นต้น โดยมาพร้อม 3 ทางเลือก กับ 4 รุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในแบบเอสยูวีของลูกค้า โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต ฟังก์ชั่นครบครัน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ประกอบด้วย ซึ่งมี 4 รุ่นย่อยด้วยกัน

 

 

รุ่น 2.0 PRIME คุ้มสุด กับทางเลือกที่ใช่ คุ้มค่าเหนือราคากับรุ่นเริ่มต้นใหม่ ในราคาจำหน่าย 699,000 บาท (รุ่นเริ่มต้นใหม่ ที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ขับสนุกเร้าใจกับความแรงเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมัน E85 ประหยัดน้ำมันสูงสุด 16.4 กม./ลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบฮาโลเจน กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ กระจังหน้าสีเงิน วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำ ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ GVC (G-Vectoring Control) ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มผ้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมหน้าจอ Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander รองรับระบบ Apple CarPlay® และ Android AutoTM ลำโพง 6 ตำแหน่ง มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วยกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS พร้อมปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

 

 

รุ่น 2.0 ULTRA สบายสุด มั่นใจไปกับอีกขั้นกับทางเลือกที่ใช่ ราคาจำหน่าย 759,000 บาท

อีกทางเลือกของความสะดวกสบาย ที่มอบความเพลิดเพลินให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปตลอดการเดินทางด้วยระบบ Infotainment ครบครัน มอบความสะดวกด้วยระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสีเทาเข้ม และเบาะนั่งหุ้มหนังและผ้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ ตกแต่งด้วยสีเงินซาติน เพิ่มความสบายให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วยพนักวางแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ เพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มากขึ้นกับระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด มอบความอุ่นใจไปตลอดการเดินทาง

 

 

รุ่น 2.0 ULTRA PLUS สบายสุด พร้อมฟังก์ชั่นที่สะดวกไปอีกขั้น ราคาจำหน่าย 829,000 บาท

มอบความสบายด้วยฟังก์ชั่นที่ลงตัวกับทุกมิติของชีวิต มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมระบบไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED Signature ซุ้มล้อสีดำเงา คิ้วตกแต่งกันชนหน้าและแผงกันกระแทกด้านข้างสีเงิน ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านนิรภัย ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (DRL) แบบ LED Signature ภายในสบายไปอีกขั้นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เพิ่มเติมด้วยฟังก์ชั่นเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) เป็นต้น ทั้งยังมอบความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดผ่านระบบ Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM แสดงผลผ่านหน้าจอสีแบบทัชสกรีน Center Display ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander

 

 

รุ่น 2.0 SIGNATURE พร้อมสุด ทุกฟังก์ชั่นและสไตล์ที่ใช่ ราคาจำหน่าย 899,000 บาท

ครบครันทุกฟังก์ชั่นและการดีไซน์สไตล์สปอร์ต ด้วยกระจังหน้า กระจกมองข้าง และหลังคาสีดำ พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift) ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนอัตโนมัติ ภายในสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยแผงคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ เบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede® กรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ นอกจากนี้ยังครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และระบบบันทึกตำแหน่งคนขับ 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go และระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ (HBC) เป็นต้น

 

คุยหลังขับกับวชิระ เรืองมาลัย

สำหรับผมมองว่า รถมาสด้า NEW MAZDA ESSENTIAL COLLECTION เป็นการปรับเปลี่ยนให้เกิดความคุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ ทั้งดีไซน์ยังคงความโดดเด่น อุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน ในราคาคุ้มค่ากว่าเดิม เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ แรงบิด 204 นิวตันที่ 2800 รอบต่อนาที ยังคงขับสนุก เกียร์ 6 สปีดแบบทอล์คคอนเวอเตอร์  ยังคงได้รับความนิยม ต่อเนื่อง ยาว ๆ ไปครับ เพราะมันคือ DNA ความสปอร์ต ที่หาคู่แข่งจับยาก สำคัญคือการปรับอุปกรณ์เลือกมีเท่าที่จำเป็น และไม่มีผลกับสมรรถนะหรือระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ปรับราคาขายใหม่เป็นมิตรกับคนใช้ งาน สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ง่ายขึ้น ในยุคที่คู่แข่งหลากหลาย ค่ายจีน รถอีวีบุกหนัก และเฉือนราคาหนักหน่วงกอปรกับสภาพเศรษฐกิจการเงิน หนี้ครอบเรือน แถมประเทศไทยยังถูกปรับเครดิตลงอีก เรียกว่าปัจจัยลบค่อนข้างรุมเร้า และมาสด้าในประเทศไทยเองก็ยังไม่มีรถพลังงานทางเลือก กว่าจะเข้าเมืองไทยก็น่าจะปลายปี โค้งสุดท้ายแล้ว มาสด้าต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองและสร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค ดังนั้น NEW MAZDA ESSENTIAL COLLECTION น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่ในช่วงนี้ ก่อนที่จะมีโปรดักส์ใหม่กิ๊กกั๊กมากระตุกต่อมผู้บิโภคอีกครั้ง