ลองขับ ORA 07 Performance

มอเตอร์คู่และออพชันจัดมาเต็ม

 

เรื่องโดย กันต์ เย็นสบาย

 

สำหรับ ORA 07 (Grand Cat) คันนี้ นับเป็นรถไฟฟ้า100% ลำดับที่ 2 ภายใต้แบรนด์ ORA ของ Great Wall Motors หลังจากที่ได้ทำตลาด ORA Good Cat เจ้าเหมียวไฟฟ้า ที่ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของค่าย ที่ในปัจจุบันมีรุ่นผลิตในไทยถึง 3 รุ่นย่อย ส่งตรงจากสายการผลิตจากโรงงาน ที่จังหวัดระยอง ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นแบรนด์แรกที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศเพื่อจำหน่าย ชดเชยการนำเข้าตามนโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ หรือ ZEV 3.0 โดยทาง GWM  จะใช้เลขรหัสเป็นตัวแทนการขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในชื่อ ORA 07 ต่างจาก Grand Cat / Next Cat / Lightning Cat ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่นเดียวกับ Ora Good Cat ก็จะมาในรูปของ Ora 03 นั่นเอง

  

 

ดีไซน์เน้น ความน่ารักในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้

สำหรับ ORA 07 จะมาในพิกัดตัวถังในขนาดเดียวกับกลุ่ม D-Segment Sedan 4 ประตู โดยมีงานดีไซน์ออกไปทาง Sedan Coupe’ ท้ายลาด ไฟหน้า ทรงกลมดีไซน์โดดเด่น Intelligent LED  พร้อมระบบอัจฉริยะ เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED มุมมองด้านหน้าตัวรถ ใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มแรงกด ฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่ เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน เมื่อรวมกับไฟหน้าทรงกลมแบบเรโทรทำให้เกิดเป็นความสปอร์ต

ดีไซน์ด้านข้างได้รับการออกแบบให้หน้าต่างด้านข้างโค้งสูง มีเส้นโดยรอบทั้งคัน พร้อมหน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยในเรื่องการซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิด โดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู ส่วนด้านท้ายลาดลงสไตล์ ด้วยดีไซน์ Slip-Back ลดแรงต้านลม และช่วยเสริมสมรรถนะของรถยนต์

 

 

ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตามาในรูปทรงวงรี สปอยเลอร์ไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดล็อกรถ หรือเมื่อความเร็วถึง 70 กม./ชม. และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลายอุ้งเท้าแมว มาพร้อมยางขนาด 235/45R19 ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ มิติตัวรถตามสเปก ORA 07 กว้าง 1,862 มม. ยาว 4,871 มม. สูง1,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,870 มม. ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 125 มม. โดยรวมถือว่าเป็นรถซีดานไฟฟ้า ขนาดใหญ่ แต่ดีไซน์ก็เน้น ความน่ารักในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้

  

 

ห้องโดยสารเน้นความเรโทร คอนโซลกลางรูปตัวที

ลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ (Panoramic Glass Roof) หลังคากระจกยาวตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย คืออีกจุดเด่นขอรถ ที่ช่วยทำให้ ภายในห้องโดยสารดูโปร่ง และกว้างขวางขึ้น ห้องโดยสารเน้นโทนแบบเรโทรที่แฝงความหรู ตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light และวัสดุสีเงิน ดำ และน้ำตาล แต่การเลือกใช้ กระจก ที่ดูหรูแบบไร้ขอบ ไม่มีเฟรมประตูมากั้นทั้ง 4 บาน ได้ในเรื่องความสวยงาม แต่ต้องระวังเวลาขึ้นลงรถ โดยเฉพาะคนสูงอายุในครอบครัว

 

 

บริเวณคอนโซลกลาง ดีไซน์คล้ายรูปตัวที หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ ส่วนหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display) ระบบความบันเทิงพร้อมลำโพง Infinity จำนวน 11 ตัว และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติ ตามความเร็วรถ

 

 

พวงมาลัยปรับแบบ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมไฟตกแต่งห้องโดยสารฟังก์ชันแบบหลายสีและเป็นจังหวะ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทางและระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

 

 

ส่วนเบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มาพร้อมที่พักแขนตอนกลาง ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องเสียบ USB A และ USB C นอกจากนี้เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับเบาะแยกได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระด้านหลังได้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อม PM2.5 filter, ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

มอเตอร์คู่และออพชันจัดเต็ม ในรุ่น Performance

การทำตลาดของ ORA 07 มาในสามรุ่นย่อยครับ ได้แก่ รุ่น LONG RANGE รุ่นย่อยใหม่ LONG RANGE ULTRA  และรุ่น PERFORMANCE ซึ่งทั้งสามรุ่นขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ความจุ 83.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย โดยสำหรับรุ่น LONG RANGE และรุ่นย่อยใหม่ LONG RANGE ULTRA   นั้นมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 640 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC Standard)

 

 

ส่วนรุ่น PERFORMANCE คันที่นำมาทดสอบ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC Standard) พร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาที ยิ่งไปกว่านั้น ORA 07 มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้งานถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดประหยัด โหมด WELL BEING โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดสปอร์ตพลัส และโหมดส่วนบุคคล เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าด้านหลังพวงมาลัยและ มี ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทั้ง  Intelligent ACC  ช่วยปรับความเร็วและระยะห่างระหว่างคันหน้าได้ไกล ระบบ One Pedal ที่ควบคุมรถได้เพียงแป้นคันเร่งอย่างเดียวตอบโจทย์รถไฟฟ้าที่เน้นขับเดินทางได้สบาย ๆ 

 

 

คุยหลังขับ กับ กันต์ เย็นสบาย

 ความน่าสนใจ ของรถรุ่นนี้ มีจุดเด่น คือ น่ารักในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ เน้นแบรนด์ ORA ที่เจาะกลุ่มเป้าหมาย ผู้หญิง และถึงตอนนี้ก็น่าจะเป็นท็อปออฟเดอะไลน์ของรถ EV จาก GWM ที่มีขายในประเทศไทย ยิ่งถ้าเทียบ กับคู่เทียบในกลุ่ม ในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า D-segment ที่มีขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น BYD SEAL หรือ Deepal L07 แล้ว ORA 07 เป็นรถ EV เพียงรุ่นเดียว ที่มาในรูปทรง สไตล์รถสปอร์ตคูเป้แบบนี้

Ora 07 นั้นมีให้เลือก 3 สี คือ สีขาว, สีเทา และสีม่วง ที่จะมีเฉพาะรุ่น Performance แบบในคันที่นำมาทดลองขับเท่านั้น รวมทั้งจะมีออพชั่นพิเศษ อย่าง ระบบเบาะนวดคู่หน้า ฟังก์ชั่นประตูท้ายเตะเปิดระบบไฟฟ้า สปอยเลอร์หลังไฟฟ้า ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ ติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ เพิ่มความหรูและความสะดวกสบาย

 

 

ผมลองขับใช้งานในเมือง รวมทั้งขับไปกลับ เที่ยว ONE DAY TRIP กรุงเทพ-บางแสน ลองกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร กับระบบขับ 4 ฟูลไทม์ ทีตามสเปกชารจ์เต็ม วิ่งได้ 550 กิโลเมตร ถ้าจะถามว่าคันนี้ขับดีมั้ย ผมขอตอบเลยว่าเป็นรถไฟฟ้าที่ขับดีและนั่งสบายอีกคันครับ

สมรรถนะโดยรวมถือว่าทำได้ดี อัตราเร่งก็มีพอตัว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ช่วยขับขี่ จัดเต็ม ในส่วนของระบบช่วงล่าง จะเน้นไปที่ความนุ่มนวล หากใช้งานในชีวิตประจำวันผมว่าตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร ติดอยู่นิด ในเรื่องวงเลี้ยว ของรถที่กว้างมาก ๆ อาจจะเป็นข้อจำกัด ในเรื่องของการกะระยะ รวมไปถึงการจอดในช่องจอดด้วย แต่โดยรวมใช้ขับขี่ และนั่งโดยสารเดินทางไม่เหนื่อย และรถก็ยังขับได้สนุกจาก โหมดเสียงการขับที่ปรับเลือกได้

 

 

 

ส่วนตัวเห็นรถจริง ๆ ดูคันใหญ่มากครับ แต่ภายในไม่ได้กว้างขวางมากอย่างคิด การออกแบบทั้งสัดส่วนบอดี้ ของคอนโซลตัวที รวมทั้งด้านหน้า และด้านหลังในรถ ที่มีพื้นที่จำกัดจากความลาดเทของหลังคาแบบคูเป้พอสมควร รวมทั้งความร้อน จาก หลังคาพาโนรามิก 2 ตอน เข้าใจได้ว่าเป็นรถนำเข้า CBU จากจีน และได้ในเรื่องความสวยงาม แต่การกันแสงแดดความร้อนจากแดดเมืองไทยไม่ไหวจริง ๆ ครับ แม้จะมีแอร์หลัง โดยเฉพาะการใช้งานในช่วงเที่ยง ๆ

 ขอปรบมือให้กับความกล้า ในเรื่องของ ดีไซน์ รูปลักษณ์ของรถและห้องโดยสาร รวมทั้งออพชั่นต่าง ๆ ที่มีไว้คอยอำนวยความสะดวก ในรถในสล์ของแบรนด์ ORA ที่ต้องมีคอนเซปต์และเอกลักษณ์ ที่ความเป็นแมว แต่ความคิดเห็นส่วนตัวผมให้ 6 เต็ม 10 ดีไซน์ยังไม่ลงตัวพอ และยังติดในเรื่องคุณภาพของเกรดวัสดุ ที่นำมาใช้

ส่วนสเปกวิ่งตามระยะชาร์จเต็มเคลมไว้ 550 กม. แต่ถ้าคุณเป็นคนเท้าหนัก ชอบกดคันเร่ง เหยียบเต็มที่ แบบผม ไม่เกิน 400 กม. เตรียมหาที่ชาร์จได้เลยครับ เผื่อเหลือ เผื่อขาดไว้ อย่าไปลุ้นคาดหวัง ระยะเคลม การใช้รถไฟฟ้า ต้องวางแผนการเดินทาง

ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยคึกคักมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายรุ่น หลายราคาตั้งแต่หลักแสนไปถึงหลักล้านบาท เรียกได้ว่ากระจายเกือบทุกกลุ่ม แต่ถ้าในรถยนต์ไฟฟ้าเฉพาะกลุ่ม D-Segment สำหรับ Ora 07 Performance ก็นับเป็นอีกรุ่นรถที่มีความน่ารักพอตัว และน่าสนใจ ในรถกลุ่มนี้ ครับ

 

 

ราคา GWM ORA 07 (นำเข้า CBU จีน)

รุ่น LONG RANGE ราคา 1,299,000 บาท

ORA 07 LONG RANGE ULTRA ราคา 1,399,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)

รุ่น PERFORMANCE ราคา 1,499,000 บาท รุ่นที่นำมาทดสอบ