รีวิว Toyota Hilux TRAVO Double Cab 4TREX 2.8 

Overland Plus AT กระบะลุย ตัวท็อป

ออปชันจัดเต็ม ที่ขับดีขึ้น แบบรู้สึกได้

ทดลองขับโดย : กันต์ เย็นสบาย

Toyota ประเดิมปี 2026 ด้วยการเปิดตัว Hilux TRAVO รุ่นปรับโฉมใหม่ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของกระบะ 1 ตันสายลุยจากค่ายสามห่วง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่แค่การ “ไมเนอร์เชนจ์แบบเดิม ๆ” แต่เป็นการจัดระเบียบไลน์อัพครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้างเกรดรุ่นใหม่ ระบบช่วงล่างปรับปรุง และงานออกแบบภายนอก–ภายในที่ทันสมัยขึ้นชัดเจน และในทริป Hilux TRAVO OVERLAND Dynamic Experience Press Trip เรามีโอกาสขับรุ่น Overland Plus 4TREX 4WD (1,366,000 บาท) ตัวท็อปสุดของไลน์ ตั้งแต่ทางเรียบ ทางโค้ง สนามทดสอบ ไปจนถึงออฟโรดจริงที่สวนป่าสนามชัย ก่อนปิดท้ายที่พัทยา เป็นบททดสอบที่ครบทุกสภาพถนนอย่างแท้จริง

ไลน์อัพใหม่ของ Hilux TRAVO – แบ่งชัดเจน ง่ายต่อการเลือก

 Toyota แบ่งกลุ่ม Hilux ใหม่ออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1. Standard Cab (หัวเดี่ยว)

2. Prerunner (ยกสูง 2WD)

3. 4TREX (ยกสูง 4WD — ชื่อใหม่แทน 4×4 เดิม)

4. Overland (เน้นไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง แทน Rocco)

 โปรดสังเกตครับว่า Toyota จะแยกชื่อชัดเจนระหว่าง

- REVO = ตัวเตี้ย (Lo-Floor)

- TRAVO = ตัวยกสูง (Hi-Floor)

 ซึ่งรุ่นที่เรานำมาทดสอบคือ TRAVO Overland Plus 4TREX หรือเรียกง่าย ๆ ว่า Rocco เจนใหม่ นั่นเอง ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ 204 แรงม้าทั้งหมด ทำให้ตัดสินใจง่าย ไม่ต้องเลือกเครื่องย่อยให้ยุ่งยาก

ดีไซน์ภายนอก – ดุดันขึ้น แข็งแรงขึ้น เหมาะกับสายลุย

งานออกแบบภายนอกของ TRAVO ปรับใหม่ทั้งหน้า–หลัง เส้นสายคมขึ้น ช่วยให้ภาพรวมดูทันสมัยและมีความเป็น Overlanding ที่จริงจังมากขึ้น ตัวถังมีให้เลือก 3 แบบ : Standard Cab (ยกสูง 4TREX) , Smart Cab (Prerunner / 4TREX) และ Double Cab (Prerunner / 4TREX / Overland)

สำหรับรุ่น Overland : มีเฉพาะ Double Cab และเพิ่มชุดตกแต่งเฉพาะทาง เช่น ล้ออัลลอยดำ 18 นิ้ว กันชนหน้าและชิ้นรังผึ้งดีไซน์ใหม่ ซุ้มล้อ Overfender สปอร์ตบาร์ ตัวอักษร TOYOTA ด้านท้ายสีดำ ฝาท้ายผ่อนแรง รวมทั้งหมดให้ภาพลักษณ์ที่หล่อเข้ม ดูพร้อมเดินทาง ทั้งงานเที่ยว งานลุย หรืองานใช้งานจริงแบบครอบครัวยุคใหม่ ราคาของรุ่น Overland

 - Overland Prerunner 2WD ราคา 1,102,000 บาท

- Overland Plus Prerunner 2WD ราคา 1,176,000 บาท

- Overland 4TREX 4WD ราคา 1,292,000 บาท  

- Overland Plus 4TREX 4WD ราคา 1,366,000 บาท (รุ่นทดสอบ)

 ภายใน – พรีเมียมขึ้นชัดเจน พร้อมจอคู่ 12.3 นิ้ว

 การเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งคือ ภายในที่ไม่เป็นกระบะแบบเดิมอีกต่อไป คอนโซลหน้าปรับดีไซน์ใหม่หมด เน้นความเป็นเรียบ สไตล์เรขาคณิต ลดความโค้งมนแบบรุ่นก่อน ให้ความรู้สึกจริงจังขึ้น

อุปกรณ์ภายในเด่น ๆ : เบาะหนัง Softex + ปรับไฟฟ้าคนขับ 8 ทิศ คอนโซลบุนุ่ม ช่องเก็บของเยอะ พร้อม Cool Box USB-C 5 ตำแหน่ง ลำโพง 8 ตัว + Roof Speaker จอคู่ 12.3 นิ้วทั้งมาตรวัดและจอกลาง

 Highlight ใหม่ในรุ่น TRAVO : พวงมาลัยไฟฟ้า EPS จอคู่ 12.3” Wireless Apple CarPlay ดิสก์เบรกหลัง Auto Limited Slip Differential เบรกมือไฟฟ้า + Auto Hold แอร์ Dual Zone ปลั๊ก 220V + Wireless Charger Blind Spot / RCTA กล้อง 360° โดยรวมถือว่า Toyota ให้ของมาแบบ จัดเต็ม

 ทดลองขับ ON-ROAD – ขับง่ายขึ้นมาก โทนการควบคุมใหม่หมด

 เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 เทอร์โบ 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ทำงานกับเกียร์ 6AT ที่จูนใหม่ให้เนียนกว่าเดิม ฟีลลิ่งบนถนนจริงหลังวิ่งกว่า 70 กม. :

 - EPS เบาในเมือง หนักแน่นเมื่อใช้ความเร็ว

- เร่งดี ต่อเนื่อง ไม่สะดุด

- การเก็บเสียงดีขึ้น

- ช่วงล่างแน่น ควบคุมมั่นใจ

- ขับง่าย สบายขึ้น เหมาะทั้งคนใช้งานในเมืองและคนวิ่งทางไกลบ่อย

สนามทดสอบแบบ ON-ROAD ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ATTRIC เราทดสอบ 3 สถานีหลัก ได้แก่

1. อัตราเร่ง เน้นดูการต่อกำลังของเกียร์ ความนิ่งของตัวรถ และความมั่นใจขณะเปลี่ยนทิศทางเร็ว

2. การคุมรถบนพื้นเปียก ลองระบบ VSC / TRC / ABS

TRC ช่วยควบคุมกำลังเมื่อล้อหมุนฟรี

VSC ช่วยรักษาการทรงตัว

ABS ทำงานเนียน ไม่กระแทก

 แม้เหยียบคันเร่งแรง ระบบยังตัดกำลังเพื่อไม่ให้เกิดอาการฟรีสปิน ช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

3. Handling & Stability (Dynamic Cloud) หักหลบโดยไม่ใช้เบรก โค้งไฮสปีด

 เสถียรภาพโดยรวมของรถ จากการทำงาน ของระบบ Dynamic Cloud ที่มีผล คุมพวงมาลัยได้ไวขึ้น รถนิ่งกว่าเดิม และบุคลิกทั้งคันขับสนุกขึ้นชัดเจน การควบคุมดีขึ้นแบบรู้สึกได้

ทดลองขับ OFF-ROAD จริง – ลุยเนิน ลุยโคลน สบายกว่าที่คิด

 ในสวนป่าสนามชัย รุ่น 4TREX Plus 4WD ได้โชว์ศักยภาพครบทุกระบบ

 อุปกรณ์ลุยหลักที่ได้ลอง :

- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ + Diff Lock

- A-TRC ป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Active

- MTS (Multi-Terrain Select) — Dirt / Sand / Mud / Rock / Deep Snow

- HAC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

- DAC ควบคุมความเร็วขณะลงเนิน

- Auto LSD

- PVM กล้องรอบคัน 360°

A-TRC ทำงานดีมากบนพื้นลื่น ช่วยให้รถปีนเนินได้โดยไม่ต้องเร่งเยอะ ส่วน DAC เวลาลงเนินจัดการความเร็วให้แบบเนียน ๆ ช่วยให้ผู้ขับลุยได้มั่นใจยิ่งขึ้น

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense – ครบเหมือนรถนั่ง

การเดินทางจากสวนป่าสนามชัยไปพัทยาเป็นเส้นทางยาวที่ช่วยให้เห็นภาพชัดว่า TRAVO รุ่น Plus ให้ความสบายกว่า Hilux รุ่นก่อนมาก ทั้งการเก็บเสียง การนั่ง และการทรงตัว สิ่งที่เพิ่มขึ้นในรุ่น Overland Plus 4TREX

DRCC แบบ All-Speed + ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง

Pre-Collision System

LTA ช่วยประคองรถให้อยู่กลางเลน

AHB ไฟสูงอัตโนมัติ

PKSB หน้า–หลัง

ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง

เซนเซอร์หน้า 4 จุด

ระบบช่วยลงเนิน DAC

กล้องรอบคัน 360°

ถือว่าเป็นระดับความปลอดภัยที่เทียบชั้นรถ SUV ระดับล้านกลางได้แล้ว

สรุป – ใครเหมาะกับ Hilux TRAVO Overland Plus 4TREX?

 Toyota ยกระดับ Hilux ให้พรีเมียมขึ้น ขับง่ายขึ้น และให้ออปชั่นมากกว่าที่เคย โดยราคาเพิ่มขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ

 จุดเด่นชัดเจน

 เครื่อง 2.8 ลิตร 204 แรงม้า ประหยัดกว่าเดิม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.7 กม./ลิตร ออปชั่นความปลอดภัยเต็มขั้นกว่าเดิม ภายในพรีเมียมขึ้นแบบก้าวกระโดด ช่วงล่างและการควบคุมดีขึ้นมาก ระบบลุยทำงานได้จริงในชีวิตประจำวัน เหมาะกับใคร?

คนที่ต้องการกระบะเอนกประสงค์ใช้งานได้ทุกสภาพถนน คนที่ต้องการรถลุย + รถนั่งในคันเดียว คนที่อยากได้ฟีลพรีเมียมแบบ SUV แต่ต้องการความทนทานแบบกระบะ สายท่องเที่ยว–แคมป์ปิ้ง–ออกทริป ผู้ใช้ Toyota เดิมที่ต้องการอัปเกรดจาก Revo/Rocco หลังจากทดสอบทั้งทางเรียบ ทางโค้ง และทางลุย Hilux TRAVO Overland Plus 4TREX คือกระบะ4ประตูยกสูง ที่สมบูรณ์แบบขึ้น ทั้งด้านความสบาย การควบคุม ความปลอดภัย และความพร้อมสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบ ส่วนภาพรวม การทำตลาดรถกระบะในเชิงพาณิชย์  นั้น Toyota ก็ยังทำตลาดทั้งครบครับ ทั้ง Hilux Revo และใน Hilux Champ ควบคู่ไปกับ กระบะ4ประตูยกสูง ในแบบ OVERLAND รุ่นนี้ครับ